คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

กังวลเปิดประเทศ

นอกจากการสนทนาของคนทั่วไปจะกังวลกับการเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่าอาจทำให้โรคโควิด-19 กลับมาระบาดมากขึ้นอีก

การสำรวจของกรมอนามัยได้ผลคล้ายกันว่า เรื่องที่ประชาชนวิตกมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 92.4 คือการระบาดระลอกใหม่ อีกร้อยละ 75.8 กังวลเกี่ยวเนื่องกัน คือคนทั่วไปจะการ์ดตกไม่ป้องกันตนเอง

ส่วนความกังวลอื่นๆ ที่น้อยกว่าร้อยละ 50 ได้แก่ สถานประกอบการสถานที่ท่องเที่ยวไม่ทำตามมาตรการป้องกันโรค, กลัวตัวเองและครอบครัว ติดเชื้อ, มาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ดีพอ และจะเกิดล็อกดาวน์อีกครั้ง เป็นต้น

สำหรับกิจการที่ประชาชนกังวลว่าจะเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ร้อยละ 89.2 คือ สถานบันเทิง ผับบาร์ ทิ้งห่างจากสถานที่สาธารณะอื่นๆ ไม่ว่า ระบบขนส่งมวลชน สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา ตลาด ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

คาดว่าเป็นการรับรู้มาจากประสบการณ์เดิมที่การระบาดระลอกที่เริ่มจากสถานบันเทิง

การเปิดประเทศครั้งนี้ รัฐบาลแสดงเป้าหมายชัดเจนว่ามุ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวจาก ต่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

แผนงานประชาสัมพันธ์ที่ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทเชิญบุคคลดังด้านบันเทิงระดับโลกอย่าง ลิซ่า แบล็กพิงก์ นักร้องเคพ็อพสัญชาติไทย และ อันเดรอา โบเชลลี นักร้องโอเปร่าชาวอิตาลี มาร่วมงานเคานต์ดาวน์ เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงว่ารัฐบาลหมายมั่นโปรโมตการท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มที่

แต่หากดูตัวอย่างการเปิดประเทศของหลายๆ ชาติก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่าผล กระทบโดยรวมจะมีต่อการใช้ชีวิตของคนในประเทศนั้นๆ โดยตรงมากกว่า

แม้การระบาดระลอกที่สามของไทยนับจากปลายเดือนมีนาคมถึงช่วงกลางปี 2564 เป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่และไม่น่าจะมีสถานการณ์ใดสาหัสมากไปกว่านี้

แต่การเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดที่สูงขึ้นยังคงเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากการเปิดประเทศหมายถึงการหวนกลับไปสู่การรวมตัวของคนหมู่มากที่จะมีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และแรงงานต่างชาติเข้ามาด้วย

หากดูจากผลการสำรวจเรื่องความกังวลของประชาชน หน่วยงานของรัฐควรมุ่งเสริมมาตรการที่จะช่วยคลายความวิตก

โดยเฉพาะมาตรการที่จะไม่ทำให้ความประมาทในอดีตเกิดซ้ำรอยอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน