สัมภาษณ์พิเศษ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป้าหมายเพื่อไทย’แลนด์สไลด์’

เข้ามาถือธงนำพรรคเพื่อไทยในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่ ท่ามกลางการนับถอยหลังของรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จะขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทยไปในทิศทางใด เพื่อบรรลุชัยชนะแบบ”แลนด์สไลด์”

เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ น.ส.พ.ข่าวสด บอกถึงจุดอ่อน จุดแข็ง

รวมถึงประเด็นเซอร์ไพรส์ใหญ่ การเข้ามานั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาพรรคด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ของอุ๊งอิ๊ง- แพทองธาร ชินวัตร

มีธงนำพรรคไปในทิศทางไหน

เป้าหมายของพรรคการเมือง คือการนำเอาอำนาจของพี่น้องประชาชนมาใช้จัดสรรประโยชน์คืนกลับให้พี่น้องประชาชน ให้มากที่สุด ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลง สูงมาก ฉะนั้น สิ่งที่พรรคเพื่อไทยมุ่งหวังก็เหมือนที่ตั้งสโลแกนว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” เราต้องการสร้างโอกาส สร้างชีวิตใหม่ให้ประชาชน

ภาพที่เราเสนอในวันประชุมพรรคนั้นบอกว่าถ้าเพื่อไทยมีโอกาส หมายถึงพี่น้องประชาชนมอบอำนาจให้อย่างถล่มทลาย สิ่งที่บอกกับพี่น้องประชาชนวันนั้นคือสิ่งที่จับต้องได้ในอนาคตอันใกล้ และในระยะยาว

อะไรจุดแข็ง และจุดอ่อนของพรรค

จุดแข็งของพรรคเพื่อไทย 1. เป็นพรรคที่ถือเป็นสถาบันทางการเมือง จากตัวชี้วัดไม่ว่าเรื่องการปรับตัวของพรรค โครงสร้างการบริหารจัดการ แม้ถูกยุบพรรคมาหลายต่อหลายครั้ง ก็ยังดำรงคงอยู่ นั่นคือความยั่งยืนของพรรค

2. กลไกการบริหารจัดการ โครงสร้าง หน้าที่ อำนาจตามบทบัญญัติตามกฎหมายต่างๆ มีการแบ่งกันอย่างชัดเจน 3.การทำงานของพรรคที่ผ่านมาเป็นอิสระภายใต้เจตจำนงของพี่น้องประชาชน คือนำเจตจำนงพี่น้องประชาชนมาเป็นนโยบาย

4. การมีส่วนร่วม เรามีสมาชิกพรรคเยอะที่สุดตั้งแต่มีพรรคไทยรักไทย แต่ถูกกลไกอำนาจมืดจัดการ ทำให้สมาชิกขณะนี้ไม่มาก แต่เป้าหมายคือทำให้สมาชิกที่มีอยู่มีส่วนร่วมกับเรา ให้มากที่สุด

จุดอ่อนก็มี แต่ไม่ใช่จากภายใน เราถูกมองว่าเป็นพรรค ที่สู้ไปกราบไป เสมือนจะเป็นจุดอ่อน ถูกมองว่าไม่จงรักภักดี แต่ไม่เชิงจุดอ่อนจากภายใน เสมือนเป็นวิกฤตจากข้างนอก

จุดอ่อนภายในก็มีบ้าง เรื่องการมีส่วนร่วมของสมาชิก โอกาสของ ส.ส.ในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาส.ส.มีนวัตกรรมสร้างงาน สร้างรายได้ แต่ขาดการนำเสนอ บอกกล่าวพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นการหาเสียงที่จับต้องได้ หาเสียงอย่างเป็น รูปธรรมบนผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

วิกฤตจากภายนอก กล่าวหาเราเป็นพรรคของคนบางคน ไม่ใช่ของประชาชน เลยใช้กลไกมายุบพรรค เป็นวิกฤตที่เราเจอ เป็นภาวะคุกคาม

ก็ต้องพยายามลดตรงนี้ แสดงเจตจำนงว่าเรามุ่งมั่นยึดถือระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำประชาธิปไตยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แท้จริง การเมือง ห้ามไปยุ่งสถาบัน ห้ามแอบอ้าง เราจะปกป้องสถาบันในมุมนั้น สิ่งเหล่านี้ในรัฐบาลประชาธิปไตยไม่ค่อยเกิด แต่รัฐบาลรัฐประหาร ดึงสถาบันไปเกี่ยวกับการเมือง

ก็ต้องทำให้เห็นว่าไม่ได้เหมือนที่เขากล่าวหา และถามว่าเราไม่สู้เรื่องสิทธิเสรีภาพเหมือนที่ลูกหลานออกมาเรียกร้องหรือไม่ เราก็ต้องแสดงความชัดเจน เราปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพพี่น้องประชาชนแต่ด้วยระบบโครงสร้าง ระบบการทำงาน ไม่ใช่การเรียกร้องอย่างเดียว

เรามีโอกาส คือมีองค์ความรู้เรื่องเทคโนโลยีเยอะ จากคน ที่เป็นปูชนียบุคคลของพรรค ที่ถูกกล่าวหาเป็นประจำว่า มาครอบงำ ดังนั้น เราแก้โดยมีจุดเชื่อม ให้มีคนมาทำงาน ในพรรคจริงๆ แต่นำองค์ความรู้เหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์

เป็นที่มาคณะที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมฯ คุณอุ๊งอิ๊งก็เข้ามาแบบถูกกฎหมาย แต่สามารถเชื่อมองค์ความรู้จากพ่อ หรือใครก็ได้มาแปลงกลไกทางการเมืองสู่คนรุ่นใหม่

ขณะนี้การเมืองเข้าสู่โหมดเลือกตั้งหรือยัง

เรื่องนี้เป็นข้อหนึ่งที่พรรคตัดสินใจ disrupt ตัวเอง หยุดชะงัก พักตนเอง ปรับเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งครั้ง ต่อไปเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก โดยเฉพาะ การสื่อสารทางการเมือง เทคโนโลยียุคดิจิตอลมีบทบาทมาก ถ้าไม่ปรับตัวให้สอดรับเป้าหมายที่ต้องการคะแนนอย่างถล่มทลาย จะมีปัญหา

เพราะสิ่งที่มีอิทธิพลมากคือการสื่อสารทางโซเชี่ยลแพร่กระจายเร็วมาก เราจำเป็นต้องหยุดชะงัก พรรคที่เรียกว่า Disruption และปรับกลไกการจัดการ ปรับตัวให้สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคต

แล้วมาระเบิดให้เห็นชัดกันในวันประชุมที่ผ่านมาว่าเราจะดำเนินการ 1.เชิงนโยบาย นโยบายที่จับต้องได้ 2.กลไกการเชื่อมต่อ นำองค์ความรู้ในอดีต ความมั่นคงในปัจจุบันของพรรคที่มีอยู่ แล้วนำอนาคตมาเป็นพลังขับเคลื่อนสู่กลไกการจัดการ วางเป้าหมายเพื่อการเลือกตั้ง ซึ่งเป้าหมายคือแลนด์สไลด์ ถล่มทลาย

ดังนั้น สิ่งที่คณะกรรมการบริหารพรรคต้องทำ และทุกส่วน ต้องวางยุทธศาสตร์การเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเพื่อตอบโจทย์ทุกเขต เลือกตั้ง ซึ่งเราส่งครบทุกเขต ขายสิ่งที่เป็นอนาคตกับพี่น้องประชาชน

สิ้นปีนี้มีโอกาสเลือกตั้งหรือไม่

มองปัจจัยอยู่ 2-3 เรื่อง 1.ดูกลไกกระบวนการของการเร่งรัดจัดทำรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก มันชวนให้คิดมากว่าทำไม ก็น่าจะเป็นเพราะว่าน่าจะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้

2.ความอยู่รอดของรัฐบาล เสถียรภาพรัฐบาล การไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นตัวตัดสินว่าจะมีเลือกตั้งเร็ว ถ้ากระบวนการการทำหน้าที่ ในสภาไม่ไปด้วยกัน มีปัญหากัน กฎหมายการเงินเข้าสภาไม่ผ่าน ก็เป็นเรื่อง

และ 3.เรื่องคุณสมบัตินายกฯ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เราคุยกันจะสิ้นสุด 24 ส.ค. 2565 จึงประเมินว่าน่าจะมีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้ ส่วนปัจจัยอื่นๆ แล้วแต่ เช่น เขาตัดสินใจยุบสภาเอง

เหตุที่พรรคต้องเปลี่ยน ตัดสินใจมอบให้ตนเอง และกก.ชุดใหม่เข้ามาเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง

จะทำอย่างไรเพื่อเป้าหมายแลนด์สไลด์

การปฏิบัติที่จะแลนด์สไลด์ได้จริง พรรคการเมืองต้องเอาชนะใจพี่น้องประชาชนที่เป็นคนลงคะแนน การชนะใจไม่ใช่การบังคับ เพราะสิทธิ์อยู่ที่เขา แต่เราต้องสร้างให้เขาเห็นว่าเมื่อกาเพื่อไทยแล้วมีความหวัง จับต้องได้ มั่นใจว่าเกิดขึ้นได้

จะเป็นการสื่อสารทางการเมืองให้ถึงทุกกลุ่ม ทุกคน ต้องทำให้เขาเห็นภาพให้ได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ

การเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

แน่นอนการแลนด์สไลด์ได้จุดแข็งเดิมต้องรักษา เขตเดิมต้องอยู่ เติมเขตใหม่ บนฐานเสียงทุกกลุ่ม คนรุ่นใหม่ที่จะมาสู่การเลือกตั้ง ปีหนึ่งประมาณ 7 ล้านคน เป็นสิ่งที่น่าสนใจ 7 ล้านเยอะหรือไม่ เทียบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 53 ล้านดูไม่เยอะ แต่คนเหล่านี้มีอิทธิพลเชิงการสื่อสารทางการเมืองสูงมาก

ไปบอกกล่าวอะไรพ่อแม่ส่วนใหญ่เชื่อลูก นี่คือจุดที่เราต้องไปสู้ ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงในการสื่อสารที่ทัดเทียมกัน ซึ่งสารของเราเป็นจริง จับต้องได้ จึงมั่นใจว่าน่าจะมีส่วนแบ่งจากคนรุ่นใหม่

สังเกตจากปฏิกิริยาช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่พรรคพยายามทำ พบว่ามีเยาวรุ่น เยาวชนสนใจเข้ามามีส่วนร่วมกับเราเยอะมาก สิ่งที่เป็นแรงจูงใจมากที่สุดคือเรื่องของซอฟต์ เพาเวอร์, ครีเอทีฟ อีโคโนมี ซึ่งเราพูดชัดเจนว่าจะขับเคลื่อน ประกอบนโยบาย”เพื่อไทย เพื่อมหานคร” กระจายเมืองใหญ่เข้าสู่ภูมิภาค เป็นไปได้จะมีคอมเพล็กซ์ สำหรับคนรุ่นใหม่ เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งเอ็นเตอร์เทน เป็นภาพที่จับต้องได้ ไม่ใช่เชิงอุดมการณ์อย่างเดียว

เมื่อนโยบายสัมผัสได้ จับจ้องได้ มันยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อประชาชนเข้ามาสีส่วนร่วมด้วย และได้ประโยชน์

คู่แข่งอย่าง พปชร.ประเมินยังไง

ทุกพรรคเราถือเป็นคู่แข่งอยู่แล้ว ก็ต้องพยายามศึกษาและรู้จักเขาให้มาก รู้เรารู้เขา รบร้อยครั้งชนะร้อยครา แต่ต้องรู้เราเป็นตัวตั้งก่อน อย่าไปรู้แต่คนอื่นอย่างนั้นไปรบก็แพ้ เราศึกษาบริบทของพลังประชารัฐ ว่าเขามีจุดแข็ง มีจุดอ่อนตรงไหน มีโอกาส มีวิกฤตอย่างไร สิ่งที่เกิดกับเขาจะเป็นประโยชน์กับเราหรือไม่ ก็นำมาวิเคราะห์

เช่นอยู่ในเขตที่ต้องต่อสู้กัน พรรคเขาเป็นอย่างนี้จะมีกลไกวิธีการอย่างไรที่จะบอกกับพี่น้องประชาชนว่ามั่นคงหรือไม่ ระหว่างเพื่อไทย กับพลังประชารัฐ ใครจะมีอนาคตที่ดีกว่ากัน ในเชิงเปรียบเทียบ เมื่อเข้ามาอยู่ตรงนี้สิ่งที่ตนจะเน้นคือ พรรคเราจะไม่ใช้กลไกเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองไปทำลายพรรคอื่น การเมืองต้องมีความจริงใจ เราไม่ไปทำลายคนอื่นด้วยกลไกวิธีการที่ไม่ชอบธรรม เพื่อไทยจะทำให้การเมืองเป็นการเมืองแบบใหม่จริงๆ

หัวหน้าพรรค ต้องมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่

ด้วยธรรมเนียมหลัก การปฏิบัติของพรรคเสนอชื่อแคนดิเดต นายกฯ 3 ชื่อ ตามกฎหมาย ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แนวทางตรงนี้คงไม่ แปรเปลี่ยน และเดิมเราเสนอชื่อแคนดิเดต 3 ชื่อ แยกจากหัวหน้าพรรค ชัดเจนมาตลอด แนวทางนี้น่าจะถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป เราต้องการแยกแนวทางการบริหารพรรค กับการบริหารประเทศ

ในส่วนแคนดิเดตนายกฯของพรรคนั้นเราพร้อม คุณสมบัติเปิดมาต้องว้าวแน่ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิด ยืนยันมีรายชื่อแล้วพร้อมเสนอ เช่น จะยุบสภาแล้วเราต้องปังเลย ตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ และที่ยังไม่เปิดชื่อก็เป็นการเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ที่อาจดีกว่าคนที่มีอยู่เข้ามาได้ด้วย

อุ๊งอิ๊งเข้ามาอาจถูกตั้งข้อสังเกตถูกครอบงำ เป็นนอมินีของนายทักษิณ

ก็มองได้ ยิ่งฝ่ายที่เห็นกลไกการจัดการ กลไกการบริหารและแนวทางการทำงานของเรา เขายิ่งหวั่นวิตก สิ่งที่เราเปิดในวันประชุมพรรคทำให้คู่แข่งทางการเมืองเข่าทรุด การป้องกันเข่าทรุดของเขาคือตีกันก่อน สร้างวาทกรรมกันไว้ก่อน

แต่ด้วยความเคารพนี่คือการเปิดหน้าชกตามกฎหมาย 1.อุ๊งอิ๊งเข้ามาตามกฎหมาย 2.บทบาทหน้าที่ไม่ใช่การ บริหารจัดการ เป็นคณะที่ปรึกษา ฉะนั้นเป็นสิทธิของคณะ ที่ปรึกษาและเป็นสิทธิของอุ๊งอิ๊งที่จะนำองค์ความรู้ นวัตกรรม จากไหนก็ได้ หรือแม้แต่สิ่งที่คนรุ่นใหม่คิดค้นมาแปลงสู่นโยบายพรรค

ฐานองค์ความรู้ของนวัตกรรมมาจากไหนก็ได้ มาจากพ่อ ของอุ๊งอิ๊งก็ได้ ไม่ผิด ถ้าพ่อบอกว่าเรื่องนี้ดี พูดในคลับเฮาส์เปิดเผยทั่วโลก สามารถหยิบมาเป็นนโยบายขับเคลื่อนสู่คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลไกที่ถูกต้องตามกฎหมาย

การเอาแนวคิดพ่อ คนภายนอกแค่เปิดองค์ความรู้และ คนของพรรคมาทำ ผิดตรงไหน เราจึงไม่กลัวข้อกล่าวหา เพราะพิสูจน์ด้วยตัวบทกฎหมาย ลายลักษณ์อักษร และด้วยพฤติกรรม

การเปิดตัวอุ๊งอิ๊ง มีผลต่องูเห่าหรือคนที่ต้องการย้ายพรรคหรือไม่

ส่วนตัวมองว่ามีผล เพราะการย้ายพรรควัตถุประสงค์เพื่อเป็นผู้แทนฯ การคิดจะย้ายไปเขาคงเห็นว่าอยู่กับเราแล้วไม่ได้เป็นผู้แทนฯ แม้ชื่อเสียงพรรคดีแต่ในพื้นที่เขาต้องสู้หนัก ด้วยกลไกนอกเหนือจากปกติก็อาจต้องไปแสวงหาโอกาสนั้นเพื่อชัยชนะ

แต่พอเปิดกลไก วิธีการ การทำงานของพรรควันนี้ เรื่องเชิงนโยบายที่จับต้องได้ เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน อนาคต และอุ๊งอิ๊ง มาเชื่อมต่อคนรุ่นใหม่ เป็นนวัตกรรมของพรรคที่เชื่อมประสานได้อย่างนี้ คนเชื่อมั่น พี่น้องประชาชนมั่นใจ คะแนนก็ย่อมเทมา เมื่อตอบโจทย์แลนด์สไลด์ จะย้ายพรรคไปทำไม เชื่อมั่นเขากลับใจแน่นอน

มีโอกาสที่จะมีชื่อ อุ๊งอิ๊ง เป็น 1 ในแคนดิเดต นายกฯของพรรคหรือไม่

วันนี้เขามานั่งประธานที่ปรึกษาพรรคด้านการมีส่วนร่วมฯ ถ้าผลงานดี เป็นที่ยอมรับ และมีประชาชน ภาคส่วนอื่นๆ อยากให้เพื่อเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทำไมจะไม่ได้

รายชื่อกก.บห.พรรคเพื่อไทยชุดใหม่

หัวหน้าพรรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

รองหัวหน้าพรรค 4 คน นายสุทิน คลังแสง, นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, นายสรวงศ์ เทียนทอง

เลขาธิการพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง

รองเลขาธิการพรรค 8 คน นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์, นายคุณากร ปรีชาชนะชัย, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม, นายนพ ชีวานันท์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล, น.ส.อรุณี กาสยานนท์, นายจิรวัฒน์ ศิริพาณิชย์, นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม

กรรมการบริหารพรรค 5 คน น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม, น.ส.จิราพร สินธุไพร, นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล, นายพชร นริพทะพันธุ์, น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี, น.ส.ธีราภา ไพโรหกุล

นายทะเบียนพรรค นายจักรพงษ์ แสงมณี

เหรัญญิกพรรค นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์

โฆษกพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์

ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน