สถานการณ์ ท่องเที่ยวไทย – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2564 มีประมาณทั้งสิ้น 3.84 แสนล้านบาท ลดลง 21% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 4.82 แสนล้านบาท

แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 4 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เดินทางเข้ามาในช่วงที่เปิดรับตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 2.68 แสนคน

ส่วนตลาดคนไทยที่ท่องเที่ยวในประเทศทั้งปี มีการเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 90 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 3.6 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากโครงการที่กระตุ้นให้เดินทางท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายด้วย

สำหรับปี 2565 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 7.5-8 แสนล้านบาท

ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเกิดภาวะโรคระบาดจากเชื้อโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศได้รับผล กระทบอย่างหนัก นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงหายไปจำนวนมาก

ช่วงกลางปี 2564 รัฐบาลพยายามปรับรูปแบบเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้โมเดล “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม

ตามด้วยโครงการสมุย พลัส โมเดล ต้อนรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติสู่ทะเลฝั่งอ่าวไทย เชื่อมพื้นที่ 3 เกาะ ทั้งเกาะสมุย เกาะเต่า และเกาะพะงัน ในรูปแบบท่องเที่ยวตามเส้นทางที่กำหนดไว้ และกำหนดพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัยหลายจังหวัด

แต่แล้วการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ “เดลตา” และ “โอมิครอน” ก็ทำให้ความหวังพังครืนอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องเกิดการ ท่องเที่ยวภายในประเทศ สำหรับคนไทยประมาณ 160 ล้านคน/ครั้ง ส่วนชาวต่างชาติที่จะเข้ามา ในประเทศนั้นตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ 5-15 ล้านคน

การพลิกฟื้นการท่องเที่ยวในช่วงเชื้อโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่และอาจมีการกลายพันธุ์อื่นๆ ตามมา ถือว่าเป็นงานหนักและต้องปรับรูปแบบอยู่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชน

จริงอยู่ มาตรการฉีดวัคซีนป้องกันที่ขณะนี้กำลังจะทะลุกว่า 100 ล้านโดสแล้ว ตลอดจนมาตรการด้านสาธารณสุขต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดอาจสร้างความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง

ที่สำคัญจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่ามาเที่ยวแล้วปลอดภัย ไร้ความเสี่ยง ป่วยไข้มีบริการทางการแพทย์พร้อมให้การรักษา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน