คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

กกต.ยังเฉย

การแข่งขันหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 และ ส.ส.สงขลา เขต 6 ผ่านโค้งสุดท้ายเข้าทางตรงมุ่งสู่เส้นชัยในวันเข้าคูหาเลือกตั้งลงคะแนนเสียงในอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้

เป็นการเลือกตั้งซ่อมแทนส.ส.คนเดิม ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสมาชิกสภาพ เนื่องจากต้องคดีความจากการชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2556-57 ดังที่สังคมรับทราบกันโดยทั่ว

ระหว่างการหาเสียงขับเคี่ยวเกือบเดือนที่ผ่านมา ผู้สมัครจากพรรคของอดีตส.ส.ที่พ้นสมาชิกสภาพ พรรคแกนนำรัฐบาล พรรคตัวแทนคนรุ่นใหม่ และพรรคการเมืองหน้าใหม่ ลงพื้นที่หาคะแนนเสียงกันเข้มข้น

ขณะเดียวกันก็ส่อเค้าไม่ปกติ มีเหตุยิงรถหาเสียง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยเคลื่อนไหวอย่างผิดสังเกต

อีกสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร แทนเจ้าของตำแหน่งคนเดิมจากพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสมาชิกสภาพ เนื่องจากเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกมาแล้ว

แม้กำหนดเข้าคูหาลงคะแนนจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม แต่การขับเคี่ยวเป็นไปอย่างเข้มข้นเช่นกัน มีผู้สมัครจากพรรคแกนนำรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน พรรคที่คนรุ่นใหม่สนับสนุน

รวมไปถึงพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งทั้งแกนนำพรรคและผู้สมัครของพรรคเคยร่วมขบวนการต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นำไปสู่รัฐประหาร

สนามเลือกตั้งนี้นอกจากเป็นที่สนใจในวงกว้างแล้ว ยังแข่งขันกันดุเดือด ล่าสุดมีเรื่องร้องเรียนซื้อเสียงหัวละ พันห้า

จากสถานการณ์ดังกล่าว มีเสียงเรียกร้องเป็นอย่างสูงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “กกต.” ซึ่งเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจังและให้ถึงที่สุด

โดยเฉพาะความเป็นกลาง เพื่อทำให้การ เลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นบริสุทธิ์ยุติธรรม และต้องตรวจสอบได้ ทั้งยังต้องปฏิบัติงานเชิงรุก ตรวจตรา สอดส่องการทุจริตเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่รอให้มีผู้ยื่นร้องเรียนเสียก่อน

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน ซึ่งจะส่งผลต่อการมีส่วนร่วม และพัฒนาการทางประชาธิปไตย

ทว่าขณะนี้ดูเหมือน กกต.ยังนิ่งเฉย ไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน