ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เสร็จสิ้นลงโดยสมบูรณ์ไปแล้ว
พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกันอภิปรายท้วงติงการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงเสนอแนะแนวทางต่างๆ ครอบคลุมในเกือบทุกมิติ
โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ สินค้าราคาแพง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความเหลื่อมล้ำ ความไม่โปร่งใส และความไม่ชอบมาพากลในโครงการต่างๆ ที่ส่อเค้าไม่โปร่งใส
รวมการอภิปรายและชี้แจงเป็นเวลา 2 วัน ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 31 ชั่วโมง
สําหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านทำหน้าที่นำเสนอข้อมูลและปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลได้อย่างน่าสนใจ
ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนที่ต้องประสบกับความยากลำบากเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพที่เพิ่ม สูงขึ้น รายได้ไม่พอกับรายจ่าย การแพร่ระบาด ของโรค และยาเสพติดในทุกชุมชน
การเปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากล กรณีนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจพิเศษสั่งปิดเหมืองทอง และประกาศจะขอรับผิดชอบเอง จนถูกฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งระหว่างประเทศ และส่อเค้าจะบานปลายใหญ่
เป็นอีกความเสียหายที่อาจต้องใช้ทรัพยากรของชาติไปแลกเปลี่ยน ซึ่งประชาชนคนไทยจักต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
อีกประการสำคัญคือการเปิดโปงขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงยา ที่ดำเนินการในลักษณะคล้ายกับค้าทาส และมีทั้งตำรวจ ทหาร ราชการ และอิทธิพลท้องถิ่นเข้าไปร่วมด้วย
แม้จะมีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก และศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่กังขาว่ายังมีอีกบางส่วนลอยนวล เพราะถูกตัดตอนคดีไม่ให้สาวถึงตัว
อีกประการที่ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ของการอภิปรายทั่วไปในครั้งนี้ คือมีสมาชิกสภา ผู้แทนประกาศและยื่นลาออกกลางที่ประชุมด้วย
แม้จะจบการอภิปรายครั้งนี้ แต่น่าจะยังมีประเด็นที่จะนำไปต่ออีกในสมัยประชุมหน้า ซึ่งเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ และมีการท้าทายว่า ล้มรัฐบาลให้ได้ก็แล้วกัน ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่ง
