FootNote:ผลสะเทือน จากสงครามยูเครน กับ รัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผลสะเทือนจากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย ที่กำลังกลายเป็นสงครามรุกรานยูเครน ไม่เพียงแต่ทำให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว หากแต่ยังทำให้รัสเซียแปรสภาพเป็นบักน่อยตุหรัดตุเหร่
นั่นเป็นผลสะเทือนในทางรูปธรรมจากสงครามในทางกายภาพ แต่ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด คือผลสะเทือนในทาง “ความคิด”
ความคิดที่ประเมินรัสเซียสูง ความคิดที่ประเมินยูเครนต่ำ
อาจเป็นเพราะเห็นว่า โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เคยเป็นดาวตลกและแลดูเหมือนกับเป็นทารกทางการเมือง เพิ่งมีโอกาสได้เข้าไปลิ้มรสแห่งอำนาจ
อาจเป็นเพราะเห็นว่า วลาดิมีร์ ปูติน มากด้วยประสบการณ์ และความจัดเจนในทางการเมือง ไม่เพียงเพราะเคยเป็นสายลับคร่ำหวอด หากแต่เคี่ยวกรำบนถนนแห่งอำนาจมาร่วม 20 ปี
ความเชื่อมั่น ความศรัทธา จึงเทให้กับปูตินมากกว่าเซเลนสกี
ความเชื่อมั่น ความศรัทธา จึงให้น้ำหนักต่อคนอย่างปูตินมากกว่าคนอย่างเซเลนสกี
ความโน้มเอียงนี้จึงก่อผลสะเทือนเป็นอย่างสูงทาง “ความคิด”
ต้องยอมรับว่าในความจัดเจนและอยู่ในอำนาจต่อเนื่องยาวนานจน เกือบ 20 ปีของปูตินนั้นเอง ด้านหนึ่ง มีประสบการณ์ แต่อีกด้านหนึ่งซึ่งอันตรายก็คือ มีความมั่นใจในพลังของตนเองสูง
เมื่อมีความมั่นใจในพลังของตนเองทั้งในสถานะแห่งประเทศใหญ่และความเหนือกว่าจึงดูหมิ่นดูแคลนอีกฝ่าย
เห็นได้จากการประกาศอย่างเชื่อมั่นว่าจะสามารถยึดเมืองเคียฟ มหานครของยูเครนได้ภายใน 2 วัน เพราะคนยูเครนปฏิเสธรัฐบาลปฏิเสธเซเลนสกีและยินดีต้อนรับกองทัพโซเวียตให้เข้ายึดครอง
แต่ผลจากปฏิบัติการเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ล่วงเลยมาจนถึงวันที่ 10 มีนาคม ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ 14 วันกองทัพของ
รัสเซียก็ยังไม่สามารถเหยียบเข้าไปยึดกรุงเคียฟได้ตามที่กำหนด
อาจเพราะกระแสความเชื่อมั่นต่อรัสเซียมีเหนือกว่ายูเครนดำรงอยู่ อย่างหนาแน่นโดยเฉพาะที่แวดล้อมอยู่โดยรอบกลุ่มกุมอำนาจภายในประเทศไทย
ทำให้ประเมินบทบาทของ “สงคราม”ต่ำไปกว่าความเป็นจริง
เสียงเตือนไม่ว่าจะดังมาจากพรรค้าวไกล ไม่ว่าจะดังมาจากพรรคเพื่อไทย จึงแทบไม่ได้สร้างสำนึกในการเตรียมการรับมือ
นี่คือแนวโน้มที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจพลาดอีกครั้ง
