ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง ควบคู่ปัญหาโควิด และวิกฤตเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง ทุกปัญหา รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สามารถทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าแก้ไขได้ลุล่วง

ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากจากแต่เดิมที่ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในฝีมือการบริหารงาน เริ่มมีความไม่พอใจรัฐบาลมากยิ่งขึ้น

ดังที่เห็นได้จากผลสำรวจสวนดุสิตโพล ร้อยละ 45.12 ระบุไม่ค่อยเชื่อมั่นรัฐบาล ร้อยละ 32.77 ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลเลย ร้อยละ 19.61 ระบุค่อนข้างเชื่อมั่น ที่เชื่อมั่นมากมีเพียงร้อยละ 2.50

เป็นคำตอบถึงสถานการณ์ที่น่าห่วงสำหรับรัฐบาล

การนัดดินเนอร์ของนักการเมืองพรรครัฐบาล 2 ครั้งในรอบ 2 สัปดาห์ ถูกวิจารณ์จากสังคมภายนอก ว่าเกิดขึ้นเพื่อต้องการแก้ปัญหาความไม่ลงรอยภายในของรัฐบาลเอง โดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ

ทั้งนี้ โพลฉบับเดียวกันยังตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการนัดรับประทานอาหารของพรรคการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ 61.67 ตอบว่าไม่เหมาะสม ที่ตอบว่าเหมาะสมมีเพียงร้อยละ 11.27

และเมื่อถามถึงมุมมองต่อเสถียรภาพรัฐบาล ผลปรากฏร้อยละ 50.94 มองว่ารัฐบาลไม่ค่อยมีเสถียรภาพ และร้อยละ 31.13 มองว่าไม่มีเสถียรภาพเลย

คำตอบทั้งสองข้อจึงสะท้อนได้ว่า ถึงการดินเนอร์ของพรรครัฐบาลจะจบลงด้วยความราบรื่น แต่ประชาชนก็ไม่มีความเชื่อมั่นหรือมั่นใจในรัฐบาลอยู่ดี








Advertisement

ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ คำตอบกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 91.44 ระบุถึงปัญหาที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญและเร่งแก้ไขมากที่สุดตอนนี้คือ น้ำมันแพง สินค้าแพง

รองลงมา ร้อยละ 71.81 ปัญหารายได้ไม่พอรายจ่าย, ร้อยละ 69.94 คุณภาพชีวิตประชาชน, ร้อยละ 66.64 จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด และร้อยละ 55.22 ปัญหาคนตกงาน

นอกจากความรู้ความสามารถ การมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ความฉับไวต่อปัญหาของประชาชน ในทางการเมือง ความเชื่อมั่นของประชาชนยังเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลใดขาดสิ่งนี้ไปก็เท่ากับว่าประชาชนหมดใจ

เมื่อประชาชนหมดใจรัฐบาลก็ไปต่อลำบาก ถึงจะฝืนอยู่จนได้จัดประชุม เอเปก หรือครบเทอม 4 ปี ก็ไร้ความหมายในสายตาประชาชนอยู่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน