FootNote เป้าหมาย ส.ส.ก้าวไกล ที่ 100 บททดสอบที่หนักหนา สาหัส

แม้คำประกาศของพรรคก้าวไกลโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ตั้งเป้าเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่ที่จำนวน 100 จจะฟังดูว่าเหมาะสมหากยึดจำนวน 80 ที่พรรคอนาคตใหม่เคยได้เมื่อเดือนมีนาคม 2562
กระนั้น ในความรู้สึกลึกๆของบรรดา “เกจิ” ทางการเมืองก็ไม่สู้จะมั่นใจและมีความเชื่อมั่นเท่าใดนัก
หากมองตามความเคยชิน “เดิม” ในทางการเมือง น้ำหนักความ เชื่อมั่นต่อคำประกาศของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ย่อมน้อยกว่าของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ว่าพรรคพลังประชารัฐตั้งเป้าที่ 150
ยิ่งเมื่อนำภาพของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปวางเรียงอยู่เคียงกับภาพของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และของ นายวราวุธ ศิลปอาชา ก็จะยิ่งมีน้ำหนักน้อยกว่า
แม้ในการประชุมใหญ่ครั้งนี้จะมีการเปิดตัว นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย แต่ก็มิได้สร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นเท่าใด
สถานการณ์ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เหมือนกับสถานการณ์ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในปี 2561 นั่นเอง

จากการเปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อปี 2561 สภาพก็เหมือนกับ การประชุมใหญ่พรรคก้าวไกลในเดือนเมษายน 2565
เหมือนกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประกาศเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่ง “ผู้ว่าฯกทม.” ในนามพรรคก้าวไกล
นั่นก็คือ มีคำถามตามมามากมายแม้ว่าการปรากฏตัวของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล พร้อมกับ นายเดชรัต สุขกำเนิด และปิดท้ายด้วย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จะหนักแน่นจริงจังเป็นอย่างมาก
ผ่านการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พร้อมกับความสำเร็จเหนือความคาดหมายชนะพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
แต่พรรคก้าวไกลก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองจากที่เป็น “ของใหม่”

คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ จากรากฐานความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 เมื่อสืบทอดมาอยู่กับพรรคก้าวไกลจะทะยานไปได้อีกหรือว่าลดถดถอยลง
นี่จึงมิได้ท้าทายแต่เพียง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เท่านั้น
หากเป็นการท้าทายต่อบรรดา “เลือดใหม่” ในทางการเมืองอย่าง นายชัยธวัช ตุลาธน และรวมถึง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นอย่างสูง
นับจากวินาทีนี้จึงเป็นวินาทีแห่งการทดสอบและการต่อสู้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน