FootNote จังหวะก้าวของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ การตัดสินใจต่อ “รถไฟฟ้าสีเขียว”

ปัญหาอันเกี่ยวกับ “รถไฟฟ้าสีเขียว” กำลังกลายเป็น “เผือกร้อน” ในมือของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
แม้ยืนยันว่าจะสะสางให้เรียบร้อยภายใน 1 เดือน
หากจับคำพูดจากไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เหมือนกับไม่มีปัญหา
นั่นก็คือ ไม่ได้เป็นปัญหาของรัฐบาล นั่นก็คือ ไม่ได้เป็นปัญหาของกระทรวงมหาดไทย เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรุงเทพมหานคร
ขณะเดียวกัน หากย้อนกลับไปยังข้อเสนออันมาจากกระทรวงมหาดไทยที่ค้าง “วาระ” อยู่ใน ครม. เนื่องจากคำทักท้วงจากกระทรวงคมนาคม
ต้องยอมรับว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มิได้เป็นของกรุงเทพมหานคร
แต่เมื่อผ่านจากวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นมา เหมือนกับทุกฝ่ายจะรอคำตอบจากกรุงเทพมหานคร
ความหมายก็คือคำตอบของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

กระนั้น เมื่อนำเอาแต่ละคำพูดอันสะท้อนท่าทีของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ออกมาก็จะจับได้ในความห่วงใยอันกำลังกลายเป็นปมแห่งปัญหาได้อย่างเด่นชัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปมอันเนื่องแต่การใช้อำนาจของมาตรา 44 และปมอันสัมพันธ์กับพ.ร.บ.ร่วมทุน
คำถามก็คือ จนถึง ณ วันนี้ อำนาจจากมาตรา 44 ยังคงดำรงอยู่หรือไม่ คำถามก็คือ เมื่อโครงการขนาดใหญ่นี้มิได้สอดรับกับบทบัญญัติของพ.ร.บ.ร่วมทุนจะสามารถเดินหน้าไปได้อย่างไร
สิ่งที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เน้นอย่างหนักแน่นก็คือ การจะต่อหรือไม่ต่อสัญญาของโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวจำเป็นต้องผ่านการเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานครเสียก่อน
จึงไม่เพียงแต่รัฐบาลจะรอการตัดสินใจของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หากแต่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็รอสภากทม.

ภายในห้วงเวลา 1 เดือนแห่งการรอคอยขึงไม่เพียงแต่จะทำให้สัมผัสได้ในบทบาทและความหมายของ 1 รัฐบาล 1 ผู้ว่าฯกทม. หากแต่ที่สำคัญเป็นอย่างมาก 1 คือสภากทม.
หากติดตามการตัดสินใจในอดีตสภากทม.ไม่มีความหมาย
เพราะการขับเคลื่อนเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับอำนาจของมาตรา 44 และดำเนินไปในขณะที่ผู้ว่าฯและสภากทม.เป็นสภาแต่งตั้ง
เพียงแต่ ณ วันนี้ ทุกอย่างมาจาก “การเลือกตั้ง” เท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน