FootNote:วิธีวิทยาในการบริหารจัดการ จุดต่างของ ประยุทธ์ กับ ชัชชาติ
บทบาทของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กำลังส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้ง ไปยังแต่ละส่วนของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยาอันออกมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมื่อประสานเข้ากับท่าทีของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ และ นายสุชาติ ชมกลิ่น ก็ยิ่งมีความแจ่มชัด
เป็นความแจ่มชัดที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น ออกมายืนยันว่าผลงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นความแจ่มชัดเมื่อ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ระบุความอ่อนด้อยในเรื่องพีอาร์
คำถามที่สังคมจำเป็นต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่า รัฐบาลมีความอ่อนด้อยในเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือพีอาร์ จึงถูกรุกจากบทบาทของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างต่อเนื่อง
หากมองอย่างเปรียบเทียบระหว่างกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้รับงบประมาณปีละกว่า 2 พันล้านบาทอย่างต่อเนื่อง กับสิ่งที่มีอยู่ในมือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็น่าพิจารณา
เพราะนอกเหนือเหนือจากงบประมาณแล้ว กรมประชาสัมพันธ์ยังมีสถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุเป็นเครือข่ายเป็นจำนวน นับร้อยในขอบเขตทั่วประเทศ
ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีเพียงโทรศัพท์เพียง 1-2 เครื่องและคนเพียง 2 คน เพื่อถ่ายทอดผลงานการเคลื่อนไหว
ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีงบประมาณเพื่อการประชาสัมพันธ์ ผ่านกลไกของสำนักนายกรัฐมนตรี ผ่านกลไกของทุกกระทรวงทบวงกรม
เฉพาะเครือข่ายในความรับผิดชอบของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็ประสานกับกรมประชาสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
ปัญหาของรัฐบาล ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมิได้อยู่ที่เครื่องมือ จึงมิได้อยู่ที่เงินและงบประมาณ หากแต่อยู่ที่วิธีวิทยาในการนำเอาเงินและเครื่องมือมาใช้มากกว่า
ในที่สุดแล้วก็กลายเป็นคำถามถึงวิธีวิทยาและกระบวนการในการบริหารระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ระหว่างทำเนียบรัฐบาลกับกรุงเทพมหานครนั่นเอง
จากวันที่ 23 พฤษภาคมหลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ฉันทานุมัติ กว่า 1.3 ล้านเสียงของชาวกรุงเทพมหานคร ได้ก่อรูปในทางความคิดขึ้นอย่างมิอาจปฏิเสธได้
นั่นก็คือการเปรียบเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
มีความเห็นและเสียงเรียกร้องอยากให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้บริหารในสถานะและตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” มากยิ่งขึ้น
เท่ากับเป็นการกดดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
