รณีบุคคลก่อความวุ่นวายในงานมหกรรมหนังสือ ด้วยการล็อกคอทำร้ายบุคคลอื่นที่มีมุมมองคิดเห็นแตกต่างไปจากตนเอง ข่มขู่มีระเบิดจนสร้างความแตกตื่นตกใจไปทั่ว กลายเป็นคดีความครึกโครม และกล่าวขานกันกว้างขวาง

ขณะนี้ตำรวจกำลังดำเนินคดี โดยในเบื้องต้นแจ้งข้อหาแกล้งทำให้ผู้อื่นตกใจ และอาจพิจารณาแจ้งเพิ่มข้อหาทำร้ายร่างกาย รวมถึงอาจแจ้งข้อหาคนในครอบครัวด้วย ฐานปล่อยปละละเลยให้ไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังต้องนำผลการตรวจสภาพจิต และความเห็นแพทย์มาประกอบด้วย ว่าจะถึงขั้นเป็นโรคจิตเภท หรือวิกลจริตอย่างไรหรือไม่

เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมานับว่าเป็นบุคคลอันตราย ทั้งต่อร่างกายผู้อื่น รวมถึงมุมมองทัศนะที่อาจเป็นอันตรายต่อสังคมด้วย

ากการรวบรวมคดีของเจ้าหน้าที่ พบผู้ก่อเหตุเคยกระทำความรุนแรงและอันตรายต่อสาธารณะมาแล้วหลายครั้ง โดยเริ่มกระทำเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2562 จนกระทั่งปัจจุบัน

เริ่มตั้งแต่จอดรถกีดขวาง ทิ้งสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอยต่างๆ บนท้องถนน ตะโกนกลางห้างสรรพสินค้าแสดงสิ่งที่ตนเองเคารพ ปล่อยสัตว์มีพิษกลางสถานที่สาธารณะสร้างความตื่นตกใจกลัวแก่ผู้อื่น

นอกจากนี้ยังพกอาวุธไปในที่สาธารณะ ตามก่อกวนรังควานข่มขู่การจัดกิจกรรมทางสังคม และการชุมนุมทางการเมือง จนถึงขั้นลงมือทำร้ายผู้ชุมนุมมาแล้ว

จนกระทั่งล่าสุดในงานมหกรรมหนังสือ แต่ยังโชคดีที่สถานการณ์ไม่บานปลายจนประชาชนแตกตื่นหนีจนนำไปสู่อุบัติเหตุไม่คาดฝัน








Advertisement

ากพฤติกรรมความรุนแรงหลายครั้งที่ผ่านมาของบุคคลดังกล่าว ส่งผลให้หลายฝ่ายแสดงความวิตกกังวล และเป็นห่วงสังคมไทย ที่มีบุคคลเป็นอันตราย

โดยเฉพาะเรื่องความเห็นแตกต่างทางการเมือง ไม่ว่าจะมีมุมมองทัศนะอย่างไร ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงต่อกัน มีแต่จะต้องเปิดใจกว้าง และใช้เหตุผลพูดคุยกัน

ไม่เฉพาะกรณีการกระทำต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการร้องเรียน ฟ้องร้องบุคคลอื่นๆ ด้วยข้อหาที่เกินเลย หรือเรียกว่านิติสงคราม เรื่องเหล่านี้เป็นการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนและรุนแรงต่อผู้อื่นด้วยเช่นกัน

หรือการนำเอาความเชื่อส่วนตัว มาเป็นเหตุผลเพื่อเกลียดชังและทำร้ายผู้อื่น ยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน