ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาคดีแพ่ง ระหว่างนายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับพวกรวม 14 จำเลย

กรณีที่กกต.แจกใบส้ม ระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครเป็นการชั่วคราว ในช่วงการเลือกตั้งส.ส.เมื่อปี 2562 กล่าวหานายสุรพลกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จากการใส่ซองพระสงฆ์ ทำบุญวันเกิด 2,000 บาท

โดยศาลพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 คือกกต. ชำระเงินให้แก่โจทก์ผู้ฟ้อง จำนวน 56,792,568 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามระยะเวลาและจำนวนตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด

เป็นอีกคดีที่อยู่ในความสนใจทางแวดวงการเมือง และสะท้อนถึงการทำงานของกกต.ชุดปัจจุบัน

คดีนี้สืบเนื่องจากนายสุรพล ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมากที่สุดในการเลือกตั้งส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 แต่กกต.ไม่รับรอง และนำมาสู่การแจกใบส้ม

โดยกล่าวหาว่าการใส่ซองทำบุญวันเกิดดังกล่าวเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 73(2) ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด

จากนั้นกกต.จัดการเลือกตั้งซ่อมได้ส.ส.แทนนายสุรพล และยังส่งผลให้บางพรรคการเมืองได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นด้วย ต่อมากกต.ยื่นฟ้องนายสุรพล ในที่สุดศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง โดยระบุไม่ใช่เป็นการซื้อเสียง หรือทุจริตการเลือกตั้ง

จนนำมาสู่การฟ้องค่าเสียหายทางแพ่ง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้กกต.ชดใช้เงิน 64 ล้านบาทแก่นายสุรพล และตามด้วยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ 62 ล้านบาท

ขณะนี้สำนักงานกกต.เตรียมนำคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มาศึกษารายละเอียด เพื่อยื่นฎีกาสู้คดีต่อไป แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับศาลฎีกาด้วยจะพิจารณาให้ฎีกาได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการวินิจฉัยข้อร้องเรียนที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ จนนำมาสู่การฟ้องร้อง และต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมาก

ที่สำคัญเงินที่ต้องชดใช้นั้น ใครจะเป็นผู้จ่าย ยิ่งถ้าต้องจ่ายในนามของสำนักงานกกต. นั่นหมายความว่าเป็นเงินภาษีของประชาชน ทั้งที่เกิดจากความผิดพลาดส่วนบุคคล

ถือเป็นบทเรียนของกกต.ที่ต้องรอบรู้กฎหมายเลือกตั้ง มีวิจารณญาณในการวินิจฉัยข้อร้องเรียนต่างๆ อย่างเป็นธรรม ไม่เอนเอียงเอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน