FootNote:ทำไม ต้องเป็น รัฐมนตรีตัว “ส.” ทำไมโยง สุรเกียรติ์ เสถียรไทย
การใบ้บอกรายชื่ออีก 1 ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โดย 1 ใน 250 ส.ว.สายตรงของ “คสช.” ก่อให้เกิด “ปฏิกิริยา” ตามมาอย่างคึกคัก
แม้จะใบ้บอกเพียงว่า 1 มีตัวอักษรย่อ “ส.” และเคยเป็น “รัฐมนตรี” กระทรวงสำคัญ
กระนั้น หากติดตามบทบาทของ 1 ใน 250 ส.ว.คนนี้ ก็จะเข้าใจในบทบาทซึ่งดำเนินมาในลักษณะ “โยนหินถามทาง” มาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเป็น 1 ใน 250 ส.ว.สายตรงตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 บทสรุปในเบื้องต้น จึงนำไปสู่ความเข้าใจว่าเป็นปฏิบัติการ “รับงาน” มาอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่ารับมาจากใครระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยที่ “เป้าหมาย” ยังดำรงอย่างคงมั่น
นั่นก็คือ มิได้เป็นการใบ้บอกอย่างปรารถนาดีต่อพรรคเพื่อไทย หากแต่ยังดำรงความมุ่งหมายในการสกัดแผน “แลนด์สไลด์” อย่างเด็ดเดี่ยวและเป็นจริง
จึงทายไม่ยากว่า “ส.” ที่เคยเป็น “รัฐมนตรี” คือผู้ใด
อย่าได้แปลกใจหาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะออกมายืนยันว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย จะเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
แถลงในระหว่างเดินสายไปภูเก็ต พังงา ของ นส.แพทองธาร ชินวัตร อาจสามารถยุติข่าวปล่อยนี้ลงได้ระดับหนึ่ง
กระนั้น คำถามที่ตามมาอย่างฉับพลันทันใดก็คือ ทำไมจึงต้องเป็นชื่อ ส. และเคยเป็นรัฐมนตรีอันสามารถโยงได้ว่าเป็น นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย
ทั้งๆที่รับรู้มาเป็นอย่างดีในบทบาทของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในห้วงที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างเกิดรัฐประหารเดือนกันยายน 2549
ทำไมต้องปล่อยชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อย่างเจตนาให้โยงสายยาวไปยัง นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย
หากศึกษาภูมิหลังของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย และสถานะในทางสังคมและการเมืองของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ก็จะได้คำตอบถึงเจตนาการแห่งการปล่อยข่าว
ต้องการให้เกิดบรรยากาศในแบบ “ไทยรักษาชาติ” ขึ้นมาอีก
ต้องการให้เกิดความแคลงคลางกังขาในเรื่องปฏิบัติการ “ดีล” ไม่ว่าจะกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะกับการเดินทางไปอังกฤษของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
ทุกอย่างยังแวดล้อมอยู่โดยรอบกับ โทนี่ วู้ดซั่ม และการเมืองหลังการเลือกตั้ง
