เป็นประเด็นต่อเนื่องจาก “แบม-ตะวัน” ถอนประกันตัวเอง ก่อนประท้วงด้วยการอดอาหาร เพื่อให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง 7-8 รายที่ถูกขังมานานปีเศษ
ล่าสุด องค์การนิรโทษกรรมสากลหรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่รายงาน “ขอทวงคืนอนาคตของพวกเรา” ความยาว 55 หน้า เรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกการดำเนินคดีเด็กจากการประท้วง
รายงานระบุถึงทางการไทยได้จับกุม ดำเนินคดี สอดแนมข้อมูล และข่มขู่เด็กที่ร่วมชุมนุมประท้วง โดยย้ำถึงสิทธิของเด็กที่จะชุมนุมประท้วงโดยสงบ
พร้อมเรียกร้องรัฐบาลไทยยกเลิกการดำเนินคดีอาญาต่อผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นเด็ก ยุติการข่มขู่และติดตามสอดแนมทุกรูปแบบ ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อควบคุมสิทธิในการชุมนุมประท้วงของเด็ก ให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
ในรายงานเผยด้วยว่า เด็กไทยกว่า 200 คนกำลังเผชิญข้อหาอุกฉกรรจ์ในคดีอาญา อาทิ การยุยงปลุกปั่นจากการชุมนุมประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินไปอย่างสงบเพื่อเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปทางการเมืองและอีกหลายด้านเมื่อช่วงปี 2563
องค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวหาทางการไทย จับกุม ดำเนินคดี สอดแนมข้อมูล และข่มขู่เด็กที่เข้าร่วมประท้วง พร้อมเรียกร้องให้ยุติการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาอายุต่ำกว่า 18 ปี
รายงานระบุด้วยว่า ปัจจุบันมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเกือบ 300 คนเผชิญกับข้อหาในคดีอาญาเกี่ยวเนื่องกับการประท้วง
ในจำนวนนี้กว่า 200 คน ถูกดำเนินคดีความผิดฝ่าฝืนมาตรการห้ามชุมนุมในช่วงการระบาดของโควิด-19 และมีอย่างน้อย 17 คนถูกแจ้งข้อหาความผิดอาญาตามมาตรา 112
รายงานยังระบุว่า นอกเหนือจากข้อหาของทางการ เด็กบางคนต้องเผชิญกับบทลงโทษจากครอบครัว อาทิ ถูกขับไล่ออกจากครอบครัวเนื่องจากแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ต่อผู้ปกครองของเด็ก บางกรณีนำไปสู่การทะเลาะวิวาทรุนแรง การทำร้ายร่างกาย และทำให้เด็กกลายเป็นบุคคลไร้บ้าน
องค์การนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกข้อหาต่อผู้ประท้วงอย่างสงบที่เป็นเด็ก เปิดทางให้เด็กประท้วงได้อย่างเสรีโดยปราศจากการขัดขวางใดๆ
รายงานดังกล่าวสะท้อนว่า สิ่งที่ทางการไทยกระทำต่อเด็กที่ร่วมชุมนุมประท้วง ไม่ใช่แค่เรื่องรับรู้กันเฉพาะภายในประเทศ ทุกอย่างได้เผยแพร่ออกไปสู่สายตาชาวโลก กระทั่งเป็นที่มาของรายงาน “ขอทวงคืนอนาคตของพวกเรา”
พร้อมข้อเรียกร้องที่ทางการไทยควรรับฟัง และปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
