มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติและการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ จาก 1,225 ตัวอย่าง พบว่าคนส่วนใหญ่ 50.8% ไม่ต้องการฉลอง และ 49.2% มีความต้องการ

กลุ่มตัวอย่าง 48.1% มองว่าบรรยากาศปีนี้ยังเหมือนเดิม 29.1% ระบุคึกคักกว่าเดิม เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจดีขึ้น และอีก 22.8% ระบุคึกคักน้อย เพราะราคาสินค้าแพง เศรษฐกิจไม่ดี และว่างงาน

ค่าใช้จ่ายโดยรวมนั้นคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดราว 2,389 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 ปี

สาเหตุจากเริ่มมีการใช้จ่ายมากขึ้น เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว แม้แนวโน้มจะเริ่มดีขึ้น แต่ความเหลื่อมล้ำก็ยังอยู่ในระดับที่สูง

ปัจจุบันอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นสูงมาก มิจฉาชีพอาจฉวยช่วงโอกาสนี้ก่อเหตุล่อลวงและต้มตุ๋นทางออนไลน์ด้วยอุบายต่างๆ ได้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนให้ประชาชนมีสติ พร้อมแนะนำวิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อในช่วงบรรยากาศแห่งความอ่อนไหวอารมณ์พาไปในระยะนี้

เมื่อเดือนมกราคม มีสถิติคดีเกี่ยวกับการหลอกให้รักยังสูงถึง 403 คดี แบ่งเป็นหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงินจำนวน 168 เรื่อง หลอกลวงให้รักแล้วลงทุน จำนวน 235 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 190 ล้านบาท

ดังนั้นจึงควรรู้เท่าทันและระมัดระวังอาชญากรรมรูปแบบใหม่ๆ และหลากหลาย ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและสังคมออนไลน์ ที่อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินเงินทอง








Advertisement

นอกจากนี้ ยังต้องระมัดระวังอุบายอื่นๆ เช่น หลอกให้รักแล้วกดลิงก์หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นรีโมตควบคุมสมาร์ตโฟนและดูดเงินฝากในบัญชี

รวมถึงหลอกให้รักแล้วแบล็กเมล์ขู่กรรโชกทางเพศ ด้วยการชักชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอเป็นครื่องมือขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่นๆ

กรณีดังกล่าว ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในช่วงเทศกาลนี้

จึงสั่งการให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่ทั่วประเทศ ใช้มาตรการเชิงรุกในการดูแลความปลอดภัยประชาชน หากพบประสบเหตุการณ์ต้องสงสัย ให้แจ้งหมายเลข 191 หรือ 1599 และแจ้งผ่านระบบออนไลน์เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน