FootNote นัยยะ ประชาธิปไตย บิดเบี้ยว จากภาพ ชัชชาติ พบกับ พิธา

เหมือนกับการนัดพบและหารือกันระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ 32 ว่าที่ ส.ส.กรุงเทพมหานครแห่งพรรคก้าวไกลซึ่งนำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นเรื่องธรรมดาอย่างปรกติ

โดยพื้นฐานก็คือ ระหว่าง ว่าที่ ส.ส.กรุงเทพมหานครที่จะต้องเข้าคารวะต่อผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร เหมือนกับที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดของพรรคก้าวไกล

ในเมื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ก็ชอบด้วยเหตุผลที่ว่าที่ ส.ส.กรุงเทพมหานคร จะต้องเข้าไปแสดงความคารวะเพราะต้องทำงานสัมพันธ์กัน

ยิ่งพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากชาวกรุงเทพมหานครเลือกให้มาเป็น “ผู้แทน” เป็นจำนวนมากถึง 32 จากจำนวนทั้งสิ้น 33 ยิ่งมีความจำเป็น

กระนั้น ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมากยังอยู่ที่ไม่เพียงเป็นการพบระหว่างผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครกับบรรดาว่าที่ ส.ส.เท่านั้น หากแต่ยังมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าไปด้วย

การพบระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “สัญลักษณ์”

สัญลักษณ์แห่ง “ชัยชนะ” ชัยชนะแห่ง “ประชาธิปไตย”








Advertisement

ภายใต้ชัยชนะของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้มาจากการตัดสินใจเลือกของชาวกรุงเทพมหานครจำนวนมากกว่า 1.5 ล้านคะแนนเสียงเป็นไปอย่างชนิดที่เรียกว่าท่วมท้น

ผลก็คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทะยานไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครโดยอัตโนมัติ

ขณะที่กล่าวสำหรับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พื้นฐานอย่างสำคัญยิ่งอยู่ที่จำนวน ส.ส. 151 อันเป็นอันดับ 1 ในบรรดาพรรคการเมืองที่ได้รับเลือก

ยิ่งกว่านั้น ในจำนวน 151 นี้ที่ทรงความหมายเป็นอย่างสูงเห็นได้จากคะแนนรวมกว่า 14 ล้านเสียง อันเท่ากับเป็น “อาณัติ” ซึ่งได้มาจากความเชื่อมั่นของประชาชนทั่วประเทศ

จุดเปรียบเทียบอย่างแหลมคมเป็นอย่างมากก็คือ หากระบบการเมืองเป็น “ประชาธิปไตย” ทุกอย่างก็เรียบร้อยและราบรื่น

สภาพที่เรียกว่าคาราคาซังอันล้อมอยู่โดยรอบพรรคก้าวไกล โดยรอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ล้วนมาจากกฎกติกาอันบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมิได้เป็นประชาธิปไตย “อารยะ” อย่างแท้จริง

จึงต้องใช้เวลาจนกว่าถึงเดือนสิงหาคมจึงจะได้ “คำตอบ”

จึงต้องผ่านด่านของคณะกรรมการการเลือกตั้งตั้ง จึงต้องผ่านด่านอันมี 250 ส.ว.มาเป็นเครื่องรับรอง จึงทำให้ภาพการพบระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แหลมคม

แหลมคมเพราะเท่ากับเป็นการฟ้องต่อประชาชน เป็นการฟ้องต่อนานาอารยะประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน