FootNote : แผนร้าย รวมไทยสร้างชาติ เจาะยาง เพื่อไทย ก้าวไกล
ในเมื่อมิอาจทำอะไรกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ในตำแหน่งประธานสภาได้ เป้าหมายของพรรคฝ่ายค้านที่นำโดยพรรครวมไทยสร้างชาติจึงทะลวงไปยังพรรคก้าวไกล
นั่นเห็นได้จากการเสนอชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย เข้าชิงตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 กับ นายปดิพัทธ์ สันติธาดา โดยไม่แตะรองประธานคนที่ 2 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน
ถามว่าทำไมต้องเป็น นายวิทยา แก้วภราดัย ถามว่าทำไมต้องเป็นภารธุระในความรับผิดของพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเหี้ยมหาญมั่นคง
เป้าหมายสูงสุดก็คือ อาศัยรอยร้าวอันเปราะบางระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลในการช่วงชิงตำแหน่ง “ประธานสภา” มาเป็นเงื่อนไขในการทะลวงและเสี้ยมเข้าไป
ทางหนึ่ง โดยการละเว้นไม่แตะไปยังตำแหน่งรองประธาน คนที่ 2 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อันเป็นคนของพรรคเพื่อไทย
ทางหนึ่ง อาศัยสัมพันธ์ในอดีตของ นายวิทยา แก้วภราดัย ในฐานะที่ นายวิทยา แก้วภราดัย เป็นสมาชิกสำคัญพรรคจุฬาประชาชนอัน นายภูมิธรรม เวชยชัย เคยมีบทบาท สร้างความหวาดระแวงให้บังเกิดซ้ำต่อพรรคก้าวไกล
ต้องยอมรับว่าแผนการยุทธ์ “หวังดี ประสงค์ร้าย” อันมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติต่อพรรคก้าวไกลครั้งนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ณ เบื้องหน้าเอกภาพแห่งพันธมิตรแนวร่วมประชาธิปไตย
ไม่เพียงแต่คะแนนของ นายปดิพัทธ์ สันติธาดา จะทะลุไปยัง 312 อย่างเหนือความคาดหมาย
เมื่อคำนึงถึงความเป็นจริงที่ส.ส.ของพรรคก้าวไกลคนหนึ่งไม่สามารถลงคะแนนได้เพราะติดคดีจากเมาและขับ เมื่อคำนึงถึงผู้อาวุโสแห่งพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งต้องทำหน้าที่ประธาน
คำถามอันตามมาอย่างชวนให้พิศวงก็คือ คะแนน นายปดิพัทธ์ สันติธาดา น่าจะอยู่ที่ 310 แต่เหตุใดจึงได้มาอยู่ที่ 312 จำนวน 2 มาจากพรรคการเมืองใด
กระนั้น ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ เอกภาพภายในพันธมิตรแห่งแนวร่วมประชาธิปไตยแข็งแกร่งและมั่นคงยิ่ง
ต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลดำรงอยู่อย่างเป็นสายล่อฟ้าในทางการเมือง เนื่องจากได้เสนอแนวทางร้อนแรงยิ่งบนฐานแห่งความต้องการ “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”
แต่เมื่อผ่านการสัประยุทธ์อย่างแหลมคมกับพรรคเพื่อไทย จากการต่อสู้ฉันมิตรตั้งแต่ก่อนลงนามใน “บันทึกช่วงจำ” กระทั่งการช่วงชิงตำแหน่ง “ประธานสภา”
พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลกลับกระชับกันแน่นเหนียวมากยิ่งขึ้น เผชิญกับปฏิบัติการบ่อนเซาะ บดขยี้และมาดหมายจะทำลายอย่างสุขุมและเยือกเย็น
แผนร้ายจากพรรครวมไทยสร้างชาติจึงต้องล้มเหลว