FootNote MOU “มรดก” ทางการเมือง ในมือ พันธมิตร ประชาธิปไตย

กระบวนการถอยของพรรคก้าวไกลนับแต่จากตำแหน่งประธานสภา กระทั่งถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาจถูกมองในลักษณะเป็นภาพฟ้องถึงการถูกกระทำในทางการเมือง

ไม่ว่าจะจากบรรดา “ลุง ลุง” นักการทหาร ไม่ว่าจะจากบรรดา “เกจิผู้เชียวชาญ” ค่ำหวอดในทางการเมือง

เห็นถึงความอ่อนหัด ไร้เดียงสา ไร้วุฒิภาวะอย่างเด่นชัด

แม้เมื่อรับฟังคำยืนยันจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บนพื้นฐานความมั่นใจที่ว่า “รุกได้ ถอยเป็น” ก็ไม่มีใครเห็นด้วยว่าจะเป็นเช่นนั้น

ยิ่งเห็นการรุกไล่ในที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 กรกฎาคม ไม่ว่าจะมาจาก นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ไม่ว่าจะมาจาก นายวิทยา แก้วภราดัย ไม่ว่าจะมาจาก นายศาสตรา ทองปาน

เมื่อประสานเข้ากับเขี้ยวคมอันคมกริบจาก ส.ว.ระดับ นายสมชาย แสวงการ นายเสรี สุวรรณภานนท์ และ นายประพันธ์ คูณมี ยิ่งเป็นภาพอันน่าเวทนาเป็นอย่างสูง

กระนั้น เมื่อเห็นท่วงท่าของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ล่าสุดที่ พร้อมยกบทบาทให้พรรคเพื่อไทยก็เริ่มเกิดคำถาม

เป็นคำถามที่ว่าพรรคก้าวไกลยังมี “อาวุธ” อะไรอยู่ใน “มือ”

คล้ายกับว่าอาวุธหนึ่งคือสิทธิธรรมที่จะเข้าสู่การโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในวันที่ 19 กรกฎาคม

แต่หากประเมินผ่านท่าทีจากพรรคเพื่อไทยและจากพรรคเสรีรวมไทยก็เริ่มไม่แน่ใจว่าจะมีความเป็นไปได้เพียงใด

ขณะเดียวกัน การขับเคลื่อนเข้าสู่สมรภูมิในการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.อย่างเป็นจริงก็แทบไม่มีการขานรับที่ดีจาก 7 พรรคอันเป็นพันธมิตร

จึงเหลือเพียงสิ่งที่เรียกว่า MOU ซึ่งร่วมลงนามกันเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมเท่านั้นที่อาจทรงความหมาย แต่หากอ่านผ่านท่าทีของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ต้นก็ยังมีคำถามตามมามากมาย

สภาพการณ์แห่งการถอยของพรรคก้าวไกลจากตำแหน่งประธานสภามายังตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแสดงออกอย่างเด่นชัดยิ่ง

ภายในแต่ละ “เงื่อนไข” อันพรรคก้าวไกลจัดวางเอาไว้โดยเฉพาะตั้งแต่เกิด MOU ขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม กำลังอยู่ในสภาพแห่งการทดสอบอย่างมีลักษณะกัมมันต์เป็นลำดับ

ทดสอบพันธะสัญญาระหว่างภายใน 8 พรรคพันธมิตร

ปมเงื่อนสำคัญก็คือ จะรักษาข้อตกลงร่วมเอาไว้เพียงใดในท่ามกลางเป้าประสงค์ทางการเมืองที่ท้าทายเป็นอย่างสูงโดยมีอำ นาจเป็นเดิมพัน

ทุกอย่างกำลังดำเนินไปบนเส้นทางแห่ง “กาก้าวไกล ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม” อย่างร้อนแรงและแหลมคม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน