FootNote:คำถาม ร้อนแรง ต่อ “เพื่อไทย” รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ
เหตุใดการเชื้อเชิญคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ การเชื้อเชิญคนของพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาร่วมดื่มมินต์ช็อก ณ สำนักงานใหญ่ พรรคเพื่อไทย จึงกลายเป็นคำถาม
ทั้งๆที่พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ก็เพิ่งผ่านการเลือกจากประชาชนเมื่อเดือนพฤษภาคม
ทั้งๆที่เด่นชัดอย่างยิ่งว่าตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติคือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค
มิใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทั้งๆที่เด่นชัดอย่างยิ่งว่าตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้ประสานงานพรรค
มิใช่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
โดยภาพอันปรากฏเท่ากับมิได้เป็นการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่ากับมิได้เป็นการเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าไปในฐานะแห่ง “คู่เจรจา”
และในความเป็นจริงก็เสมอเป็นเพียงการเจรจาหารือ มิได้เป็นการเชิญเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกันแต่อย่างใด
สภาพการณ์อันเกิดขึ้นอย่างคึกคักที่พรรคเพื่อไทยในห้วงแห่งการ เชื้อเชิญคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ คนของพรรคพลังประชารัฐมาเป็น “แขก” ถือได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง
เป็นการเมืองที่ในสากลเขาก็กระทำกัน เป็นการเมืองที่ในสังคมไทยในอดีตก็เห็นเป็นกรณีปกติ
แต่ก็ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์ต่อเนื่องจากรัฐประหาร ไม่ว่าเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 กลับ กลายเป็นเรื่องที่ “อ-ปรกติ” กลายเป็น “คำถาม”
ในเมื่อรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 คือการกำจัดพรรคไทยรักไทย ในเมื่อรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 คือการกำจัดคนของพรรคเพื่อไทย
ที่สำคัญในระหว่างการรณรงค์หาเสียงก่อนเดือนพฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทยเคยให้ “สัจจะวาจา” เอาไว้อย่างไร
ปัจจัยอันเนื่องแต่คำประกาศของพรรคเพื่อไทย ที่เคยให้เป็นเหมือนกับ “สัญญาประชาคม” จึงกลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและก่อให้เกิด “คำถาม”
ถามต่อพรรคเพื่อไทย ถามต่อเหตุผลของพรรคเพื่อไทย
นี่คือมูลเชื้ออันมากด้วยความแหลมคมและยิ่งวันยิ่งเพิ่มความร้อนแรงในคำถาม และการติดตามกระบวนการตัดสินใจอันเป็นทางเลือกของพรรคเพื่อไทย
ที่คิดว่าจะเป็นการแก้ไขอาจมิได้เป็นเช่นนั้น เนื่องจากเป็นการแก้ไขโดยมองข้ามความเป็นจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
