พรรคเพื่อไทยแถลงความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันจะทำงานการเมืองในมิติใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ตอนหนึ่งระบุถึงภารกิจสำคัญ กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ

คือการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับปัจจุบัน ที่เป็นต้นเหตุความยากลำบากในการตั้งรัฐบาล และก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ให้กับประเทศในขณะนี้

โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก จะมีการให้ทำประชามติ และจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อแล้วเสร็จ รัฐบาลจะคืนอำนาจให้ประชาชน เลือกตั้งใหม่ภายใต้กติการัฐธรรมนูญใหม่

รัฐธรรมนูญปัจจุบันใช้มาตั้งแต่ปี 2560 ถูกวิจารณ์เป็นมรดกชิ้นสำคัญที่คณะรัฐประหาร คสช.สร้างไว้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจ

กำหนดให้มี สว. 250 คนจากการแต่งตั้งและคัดเลือกโดย คสช. มีอำนาจร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปีนับจากเลือกตั้งปี 2562

ในการเลือกตั้ง 2566 อำนาจพิเศษของ สว.เป็นอุปสรรคใหญ่ในการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ตามเจตนารมณ์ของประชาชนเสียงส่วนใหญ่

ไม่นับรวมเนื้อหาส่วนอื่นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด ไม่ว่าการรับรองสิทธิเสรีภาพประชาชนที่บางประเด็นขาดความชัดเจน และมีข้อจำกัดมากมาย ตลอดจนบทเฉพาะกาลที่รับรองประกาศและคำสั่งของ คสช.

ที่สำคัญยังวางกลไกการแก้ไข ทำได้ยากที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีรัฐธรรมนูญมา

หลายปีที่ผ่านมามีผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่สำเร็จครั้งเดียว ในการเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งกลับมาใช้บัตรสองใบ ส่วนร่างแก้ไขประเด็นอื่น ถูกพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิมและสว.ขัดขวาง

สะท้อนได้ว่า แม้ในทางกฎหมาย คสช.จะสิ้นสภาพไปหลังเลือกตั้งปี 2562 แต่องคาพยพส่วนอื่นยังแฝงตัวในอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญ มรดกที่ คสช.ทิ้งไว้ ไม่ได้สิ้นสภาพตามไปด้วย

เลือกตั้ง 2566 ด้วยผลพวงรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดเผด็จการ ทำให้อำนาจการปกครองประเทศไม่ถูกส่งถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง

ดังนั้น การที่พรรคแกนนำกำหนดให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระแห่งชาติ ภารกิจสำคัญแรกที่จะทำทันทีหลังเป็นรัฐบาล เป็นสิ่งที่พรรคการเมืองไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านในอนาคต ควรสนับสนุนโดยไม่มีข้อแม้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน