FootNote : บททดสอบ พริษฐ์ วัชรสินธุ จากรากฐาน “โฆษกพรรค”
สังคมการเมืองกำลังจับตาบทบาทของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ที่เพิ่ง ได้รับตำแหน่ง “โฆษก” พรรคก้าวไกลอย่างเป็นพิเศษ
หากศึกษาตำแหน่งรากฐานตำแหน่ง “โฆษกพรรค” ก็จะรู้สึก ในยุคพรรคอนาคตใหม่ตำแหน่งนี้เป็นของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เมื่อเปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล ตำแหน่งนี้เป็นของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และต่อมาเป็นของ นายรังสิมันต์ โรม
ไม่ว่าจะมองผ่านชื่อชั้นและบทบาทของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายรังสิมันต์ โรม ย่อมสัมผัสได้ในพื้นฐานที่มาและความจริงจัง
น.ส.พรรณิการ์ วานิช เคยเป็น “สื่อ” มาก่อน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เคยเป็นผู้บริหารองค์การอันเกี่ยวข้องกับงานทาง ด้านอุตสาหกรรมและวัฒนธรรม
มีเพียง นายรังสิมันต์ โรม เท่านั้นที่เติบโตมาจาก “ผู้นำนักศึกษา” เคลื่อนไหวทางการเมืองในสถานะแห่ง “คนอยากเลือกตั้ง” และมีความจริงจังในการอภิปรายในสภา
หากมองผ่าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ในด้านความรู้ ในด้านการเมืองก็มีความสมบูรณ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโฆษกพรรคคนอื่น
กระนั้น จุดที่ต้องพิสูจน์คือรากทางการเมืองจาก “ประชาธิปัตย์”
ต้องยอมรับว่าการดำรงอยู่ของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ในพรรคประชาธิปัตย์ สัมพันธ์และดำเนินไปในลักษณะอันเป็นการถอด “บทเรียน” มาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ไม่ว่าจะในด้าน “การศึกษา” ไม่ว่าจะในด้าน “ความสัมพันธ์” ในทางส่วนตัว จะมีจุดต่างก็เพียงแต่เมื่อมีความเห็น “ต่าง” จากกระบวนการของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังยืนหยัด ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กลับปฏิเสธและแยกตัวออกมา
ระยะเวลาที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เข้าร่วมกับพรรคก้าวไกล คือระยะเวลาแห่งการพิสูจน์ตนเองครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทผู้จัดการรณรงค์ด้านนโยบายในการเลือกตั้ง
ตำแหน่ง “โฆษกพรรค” จึงเป็นอีกขั้นหนึ่งแห่งการ “พิสูจน์”
ปมเงื่อนมิได้อยู่ที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ มีรากฐานมาอย่างไรในทางการเมือง หากแต่อยู่ที่ว่าเขาใช้รากฐานนั้นให้เป็นคุณและมีเป้าประสงค์ใดในทางการเมือง
เป็นคุณต่อ “ประชาชน” เป็นคุณต่อ “พรรคก้าวไกล”
ไม่ว่าจะเป็นความจัดเจนอันได้มาจากสหราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นความจัดเจนอันได้มาจากการทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นความจัดเจนกับภาคเอกชน
คำตอบสุดท้ายอยู่ที่การทำงานในตำแหน่ง “โฆษกพรรค” ในการเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลอย่างจริงจัง
