นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเข้าร่วมการประชุมในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติแล้ว 3 ครั้ง
ประกอบด้วย การประชุมสมัชชาองค์การสหประชาชาติ การประชุมข้อริเริ่มโครงการสายแถบและเส้นทาง การประชุมสุดยอดอาเซียนกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ
ล่าสุด ร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิกหรือเอเปค ครั้งที่ 30 ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกับผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ
บทบาทในการประชุมครั้งนี้ถือว่าผู้นำประเทศไทยมีความโดดเด่นไม่แพ้ชาติใด เนื่องจากเป็นที่สนใจจากภาคเอกชนรายใหญ่และสำคัญ รวมถึงผู้นำชาติต่างๆ อย่างมาก
นายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยกับผู้นำธุรกิจโลกและเยี่ยมชมกิจการของบริษัทชั้นนำต่างๆ ทั้งทางด้านยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีด้านข้อมูล พลังงานสะอาด ปัญญาประดิษฐ์และอื่นๆ
ขณะนี้ มีอย่างน้อย 2 บริษัท ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ไมโครซอฟท์ กูเกิ้ล และเทสลามีแผนจะเดินทางมาไทยเพื่อดูสถานที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ในระดับผู้นำนั้น น่าสังเกตว่า ผู้นำประเทศไทย เป็นเป้าหมายการพูดคุยเพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งมีโอกาสเจรจาทวิภาคีกับผู้นำญี่ปุ่น แคนาดา ออสเตรเลีย รวมถึงประธานาธิบดีเปรู
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังให้เกียรติและแสดงความสนิทสนมด้วยการยิ้มทักทาย จับแขน และถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยกัน ซึ่งเป็นบรรยากาศของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง 2 ชาติ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอมุมมองต่อที่ประชุมครั้งนี้ว่าด้วยการให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสานต่อพัฒนาการเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG จากทุกภาคส่วน
เปิดเสรีการค้าและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่มี WTO เป็นแกนกลาง และผลักดันวาระเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) พร้อมเร่งเจรจา FTA อื่นๆ ในเชิงรุก
เสริมสร้างความเชื่อมโยง เพื่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น อาทิ โครงการ Landbridge เชื่อมมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก
เป็นมุมมองและข้อเสนอที่จะนำไปสู่การสานต่อและพัฒนาร่วมกันของภาคีสมาชิกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดขึ้นจริงและเป็นรูปธรรมในโอกาสต่อไป