นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดไปตรวจราชการ เยี่ยมเยียนชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน และจะนอนค้างคืนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้
โดยนายกฯ ระบุว่าจะไปดูเรื่องวัฒนธรรมประเพณี อาหาร และอีกหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจในพื้นที่จะต่อยอดชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนที่นั่นได้อย่างไร
ส่วนเรื่องความไม่สงบในพื้นที่นั้น นายกฯ ระบุว่างานด้านความมั่นคงทำได้ดีอยู่แล้ว เหตุการณ์ความรุนแรงน้อยลง แต่การจะทำให้ยั่งยืนต่อไปได้ก็ต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นด้วย
ถ้าเป็นดังที่นายกฯ ยืนยันก็นับเป็นสัญญาณที่ดีทั้งเรื่องความสงบ และเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) มีมติปรับลดพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และ อ.รามัน จ.ยะลา ออกจากพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้น
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล สอดคล้องกับแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดน ภาคใต้ ทำให้ขณะนี้เหลือพื้นที่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน 18 อำเภอ จากทั้งหมด 33 อำเภอ ลดลงไปแล้ว 15 อำเภอ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ในฐานะประธานกบฉ. ระบุว่าตามแนวนโยบายรัฐบาล จะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมดภายในปี 2570 ครบเทอมรัฐบาล
อีกประกาศสำคัญ นายสมศักดิ์ระบุว่า นายกฯ ไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และหารือกับผู้นำมาเลเซียอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความมั่นคง
นับตั้งแต่รัฐบาลภายใต้พรรคเพื่อไทยเป็น แกนนำหลักเข้ามาบริหารประเทศ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการแก้ปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้
ดังปรากฏผ่านการแต่งตั้งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมที่เข้าใจปัญหาในพื้นที่ แต่งตั้งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เข้าใจงานอำนวยความยุติธรรม
ตลอดจนแต่งตั้งพลเรือนเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพคนใหม่ ไม่ใช่นายทหารเหมือนที่ผ่านมา และล่าสุดผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยจากมาเลเซียเดินทางมาหารือที่ประเทศไทย
ทั้งหมดนี้เป็นแนวโน้มที่ดีต่อการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เรื้อรังมานานกว่า 20 ปี
