FootNote:นาม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมาธิการธุรกิจกองทัพ
อุบัติแห่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาการถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้า รวมถึงการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพ กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง
ทั้งๆที่เป็นเรื่องในทาง “เศรษฐกิจ” สัมพันธ์อยู่กับ “สาธารณูป โภค” และการบริการประชาชน
แต่ในเมื่อเป็นเรื่องของ “กองทัพ” จึงเกิดอาการตื่นตะลึง
เป็นความตื่นตะลึงเมื่อมีการเคลื่อนไหวจาก “นักร้อง” เจ้าเก่า ซึ่งแนบแน่นอยู่กับกลุ่มอำนาจและบางพรรคการเมือง ตั้งคำถามต่อการปรากฏชื่อของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นกรรมาธิการ
แม้เมื่อปี 2564 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะเคยเข้าไปเป็น 1 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณราย จ่ายประจำปี แต่ก็มิได้สร้างความวิตกเท่ากับครั้งนี้
ความน่าสงสัยเริ่มจากทั้งๆที่พรรคก้าวไกลเป็นผู้ผลักดันให้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมาธิการวิสามัญ” คณะนี้ขึ้น เหตุใดจึงได้รับมติเห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาล
เพราะลำพัง 150 เสียงของพรรคก้าวไกลไม่สามารถกำหนดทิศทางแห่งการเกิดขึ้นของ “คณะกรรมาธิการ” ได้อย่างแน่นอน
จึงเกิดคำถามไปยังพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย
หากพิจารณาจาก “คณิตศาสตร์” ทางการเมือง ความมั่นใจของรัฐบาลก็ดำเนินไปเช่นเดียวกับการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษารายงานอันเกี่ยวกับ “แลนด์บริดจ์”
นั่นก็คือรัฐบาลมั่นใจในคะแนนเสียงที่มีอยู่ มั่นใจในความสามารถของประธานกรรมาธิการที่จะกำหนดทิศทาง
เห็นได้จากในจำนวนคณะกรรมาธิการทั้งหมด 25 คน เสนอโดยครม. 6 เป็นของพรรคเพื่อไทย 5 เป็นของพรรคภูมิใจไทย 3 เป็นของพรรคพลังประชารัฐ 2 เป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติ 1 เป็นของพรรคชาติพัฒนากล้า 1
แม้ว่าจะมีกรรมาธิการจากพรรคก้าวไกล 6 พรรคประชาธิปัตย์ 1 ก็เป็นจำนวนที่น้อยกว่าสัดส่วนรัฐบาล 18 คน อย่างชัดเจน
การกำหนดชื่อของ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการจึงเท่ากับเป็นคำตอบ
กระนั้น เมื่อพิจารณารายชื่อของกรรมาธิการจากด้านของพรรคก้าวไกลก็น่าเป็นห่วงจนต้องส่ง “นักร้อง” ไปติดดิสเบรก
เน้นอย่างเป็นการเฉพาะไปยัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ขณะที่กรรมาธิการจากสัดส่วนพรรคก้าวไกล ก็มิได้หวังว่าผลจากการศึกษาครั้งนี้จะประสบชัยชนะ หากแต่คาดหมายเพียงว่าจะเป็นการเปิดบานประตูว่าด้วย “ธุรกิจกองทัพ”
กระนั้น เพียงเห็นชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ก่อให้เกิดสภาวะหวั่นไหวขึ้นมาล่วงหน้าอย่างเห็นได้ชัด
