การเกณฑ์ทหารของชายไทย มีบัญญัติไว้ทั้งในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497
มาตรา 7 ของกฎหมายการรับราชการทหาร บัญญัติว่าชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมาย มีหน้าที่รับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน
โดยมีกระบวนการตั้งแต่ขึ้นบัญชีทหารเมื่อมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ จากนั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จะต้องเข้าการตรวจเลือกตามหมายเรียกของภูมิลำเนาทหาร
ผู้ที่เข้ารับตรวจเลือกที่ไม่ผ่านหรือจับได้ใบดำ จะได้รับเอกสาร สด.43 คือใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกิน เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าเข้ารับการเกณฑ์ทหารแล้ว
การตรวจเลือกบุคคลที่เป็นทหารกองเกิน เพื่อรับราชการเป็นทหารกองประจำการ จะกระทำในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ตามจำนวนความต้องการของเหล่าทัพ
เนื่องจากการเกณฑ์ทหารเป็นกฎหมาย ผู้หลีกเลี่ยงมีความผิดต้องรับโทษ จึงมีขบวนการออกใบ สด.43 โดยมิชอบ ซึ่งมีคนในกองทัพเข้าไปเกี่ยวและรู้เห็นด้วย
แม้กระทรวงกลาโหมจะมีมาตรการต่างๆ ที่เข้มงวด เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบและรับผลประโยชน์ในการนี้
แต่เป็นที่รู้กันว่าขบวนการซื้อขายและการออกใบสำคัญ สด.43 โดยมิชอบยังคงมีอยู่จริง ดังที่ปรากฏเป็นข่าวให้ประชาชนได้รับรู้อยู่เสมอ ทำให้กองทัพเสียหาย
Advertisement
ดังนั้น กรณีที่นักการเมืองที่ถูกกล่าวหาและตั้งข้อสงสัยว่าได้มาและครอบครองใบ สด.43 โดยไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก จะต้องทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏโดยเร็ว
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน แถลงว่าใบสำคัญนี้ ผู้เข้ารับการตรวจเลือกจะได้รับจากประธานคณะกรรมการตรวจในวันตรวจเลือกโดยมีลายมือชื่อกรรมการครบถ้วน
เอกสารนี้มีอยู่ 3 ท่อน ท่อนแรกเก็บไว้ที่สำนักงานสัสดีจังหวัด ท่อนที่ 2 เก็บไว้ที่กองทัพภาคภูมิลำเนาทหาร และท่อนที่ 3 อยู่ที่ผู้เข้ารับการตรวจเลือก
หากไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกในปีนั้นๆ เอกสารใบ สด.43 ทั้ง 3 ท่อน จะเก็บรวมอยู่ในต้นขั้วทั้งหมด เพื่อเป็นหลักฐานโดยไม่แยกเก็บ ยกเว้นจะมีความไม่ปกติที่จงใจเกิดขึ้น
