นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปตรวจเยี่ยม ติดตามงานต่างๆ ที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และพักค้างคืนในพื้นที่
เป็นที่ทราบกันดีพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ประสบปัญหาความรุนแรง ความไม่สงบ และความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินมายาวนาน 20 ปี
ตลอดระยะเวลาดังกล่าว หลายรัฐบาลทุ่มงบประมาณ และกำลังเจ้าหน้าที่ในการแก้ปัญหาเพื่อสร้างสันติภาพในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ได้อย่างยั่งยืนถาวร
การที่นายกฯ ให้ความสำคัญลงมาติดตามดูปัญหาหลายๆ ด้านในพื้นที่ ย่อมเป็นแนวโน้มที่ดี
นายกฯ ระบุว่าภาคใต้มีศักยภาพรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว และอาหาร ซึ่งภารกิจลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวใจสำคัญคือการสร้างโอกาสเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต
โดยเฉพาะการยกระดับด้านการท่องเที่ยว เนื่องจาก จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนอัญมณีที่ยังซ่อนตัวอยู่อีกจำนวนมาก
รัฐบาลตั้งใจที่จะพัฒนา 3 จังหวัดนี้เป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว รวมถึงด้านกีฬา ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์อาหารฮาลาล ตั้งศูนย์ให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จที่ด่านศุลกากร และยกระดับสนามบิน เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน
นอกจากนี้ จะส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี ศาสนา และการเรียนรู้ของประชาชน ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติผ่านวัฒนธรรมสังคมที่หลากหลาย เพราะสันติภาพนำมาซึ่งความมั่งคั่งของประเทศชาติและประชาชน
Advertisement
จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความพิเศษ เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่มีความหลากหลาย ทั้งประเพณีวัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อ
ด้วยความหลากหลายดังกล่าว ในแง่ของการท่องเที่ยวถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์อย่างยิ่งที่ผู้คนภายนอกอยากมาเยี่ยมเยือนสัมผัส ทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย รวมถึงด้านวัฒนธรรมประเพณี และอาหารอันโดดเด่นขึ้นชื่อ
แต่เนื่องจากความไม่สงบอันยาวนาน 20 ปี ทำให้ประชาชนในพื้นที่สูญเสียโอกาส โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ รายได้ การทำมาหากิน ซึ่งข้อมูลปัจจุบันพบว่าค่าแรงขั้นต่ำ และรายได้เฉลี่ยของประชาชน 3 จังหวัดน้อยที่สุดในประเทศ
ดังนั้น ถ้ารัฐบาลทำให้เศรษฐกิจ รายได้ ปัญหาปากท้องประชาชนชายแดนภาคใต้ดีขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อการสร้างสันติภาพอย่างถาวรไปด้วย
