เป็นประเด็นร้อนแรงในวงการตำรวจ ที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

ด้วยเหตุผลสรุปได้ว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่อง ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งการบริหารงานบุคคล และงานด้านกระบวนการยุติธรรม มีการกล่าวหากันในเรื่องส่วนตัว ให้ดำเนินคดีอาญา แสดงถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ความขัดแย้งส่อลุกลามบานปลาย

ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และอาจทำให้ประโยชน์ของทางราชการเสียหาย

พร้อมกันนั้น นายกรัฐมนตรียังลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีความขัดแย้งระหว่างสองบิ๊กตำรวจ

คณะกรรมการ 3 คน ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด และพล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วรายงานนายกรัฐมนตรีภายใน 60 สิบวัน แต่ในกรณีจำเป็น นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปได้ ตามที่เห็นสมควร

ตรงนี้ทำให้ถูกจับตา ผลสอบที่ออกมาช่วงใกล้ฤดูแต่งตั้งโยกย้าย จะมีผลต่อตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่หรือไม่ อย่างไร

นับเป็นครั้งแรก ที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ผบ.ตร.และรองผบ.ตร. มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในคราวเดียวกัน








Advertisement

ทั้งนี้ เป็นตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11 (4) ที่นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีอำนาจหน้าที่ สั่งให้ข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่ง มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมหรือไม่ก็ได้

กรณีสองบิ๊กตำรวจ นายกฯ สั่งให้มาปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ ชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน ไม่ขาดจากตำแหน่งเดิม เพราะถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อต้องการให้สังคมสบายใจว่า ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ยึดมั่นในกฎหมาย ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

ความขัดแย้งของนายตำรวจใหญ่ เป็นที่จับตาของประชาชนทั่วสังคม การตัดสินใจของนายกฯ ครั้งนี้ จึงถือว่าทำได้เด็ดขาด ตรงใจประชาชน ผลสุดท้ายน่าจะช่วยกอบกู้เกียรติยศศักดิ์ศรีตำรวจไทย ที่เผชิญวิกฤตศรัทธาประชาชนมาอย่างยาวนานได้บ้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน