FootNote:จุดเปลี่ยน อำนาจ นายกรัฐมนตรี ศึกษา กรณีย้าย “2 ตำรวจใหญ่”
การย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.เข้าดำรงตำแหน่งช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กำลังเป็น “จุดเปลี่ยน” อย่างสำคัญของรัฐบาล
ทำให้สถานะแห่ง “การตัดสินใจ” ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความเฉียบขาด
ยืนยัน “อำนาจ” อันชอบธรรมแห่ง “นายกรัฐมนตรี”
ท่ามกลางข่าวลือภายหลังการลงจาก “ชั้น 14”โรงพยาบาลตำรวจ กลับ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ภายหลังการเดินทางจาก “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ไปไหว้บรรพบุรุษที่เชียงใหม่
เท่ากับเป็นการยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมว่า การดำรงอยู่ของ นายทักษิณ ชินวัตร มิได้เป็นเครื่องหมายแห่งการบั่นรอนทอนอำนาจของ นายเศรษฐา ทวีสิน
Advertisement
ตรงกันข้าม กลับสร้างความมั่นใจ สร้างความเหนียวแน่นมั่น คงให้กับรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน
ผลที่เห็นอย่างทันตาก็คือการจัดระเบียบและสร้างความเรียบร้อยให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในท่ามกลางการเดินสายตรวจโรงพักของ “นายกรัฐมนตรี”
จำเป็นต้องย้อนกลับไปศึกษาอดีต ไม่ว่าจะเป็นอดีตหลังการเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2551 ไม่ว่าจะเป็นอดีตหลังการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 ก็จะเข้าใจ
เข้าใจว่ารัฐบาลพรรคพลังประชาชน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำอย่างไรกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เรื่องนี้เมื่อมองจากด้านของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และเมื่อมองจากด้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ก็ยิ่งย่อมจะเข้าใจ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์
ในเมื่อพรรคเพื่อไทยสะสมประสบการณ์และบทเรียนอย่างอุดม ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องมายังยุคพรรคพลังประชาชน
บทเรียนและความจัดเจนนั้นย่อมตกถึง นายเศรษฐา ทวีสิน
รูปธรรมแห่งการเดินสายตรวจแต่ละสถานีตำรวจของนายกรัฐมนตรี ตอกย้ำให้เห็นถึงความมั่นใจในอำนาจในมือทั้งอำนาจ “นายกรัฐมนตรี” และ “ประธานตร.”
ทั้งหมดนี้จึงมิได้เป็น “จุดเปลี่ยน” ที่จะเกิดขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากแต่ยังจะเป็นการกระชับอำนาจของรัฐบาลในมือของ นายเศรษฐา ทวีสิน อย่างสำคัญ
เป็นความจัดเจนจากบทเรียนของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นความขัดเจนจากบทเรียนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
