FootNote จับตา บทบาท พลเอกณัฐพล สะพานเชื่อม รัฐบาล กองทัพ
เมื่อเห็นรายชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาควาณิชย์ อยู่ในสถานะแห่ง “ว่าที่” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ตามโผที่ปรากฏผ่านหนังสือพิมพ์ “ข่าวสด” แล้วคิดอย่างไร
คนที่ติดตามบทบาทของรัฐบาล บทบาทของกองทัพตั้งแต่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 มาจะรู้สึกว่าเป็นปกติ
เป็นปกติเนื่องจากว่า พล.อ.ณัฐพล นาควาณิชย์ ไม่เพียงแต่เคยดำรงตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารบก หากแต่ยังเคยดำรงตำ แหน่งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างสูงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ยิ่งในยุคแห่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดปลายปี 2562 และทวีความรุนแรงในปี 2563 พล.อ.ณัฐพล นาควาณิชย์ ยิ่งได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลเป็นอย่างสูง
ไม่ว่าจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทั้งภาระหน้าที่ด้านความมั่นคงและด้านการเมือง
ยิ่งในรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ก็ยิ่งมีบทบาทดำรงอยู่เหมือนเดิม
การแต่งตั้ง นายสุทิน คลังแสง เข้าดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็มีการแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาควาณิชย์ อยู่ในคณะทำงานของสำนักรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ถือได้ว่า พล.อ.ณัฐพล นาควาณิชย์ อยู่ในฐานะเป็นเหมือนกับ “พี่เลี้ยง” ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ขณะเดียวกัน ก็อยู่ในฐานะอันเป็นตัวแทนของฝ่ายทหาร ไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะมองจาก ด้านของพรรคพลังประชารัฐ
การที่จะได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงสามารถเข้าใจได้
เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกับอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ราบรื่น
การมาของ พล.อ.ณัฐพล นาควาณิชย์ เท่ากับหลักประกันการเมืองไทยยังดำรงอยู่อย่างเป็นปรกติภายใต้โครงสร้างแห่ง “รัฐบาลพิเศษ” ที่ก้าวข้ามความขัดแย้งเดิม
เป็นไปตามที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566
นั่นก็คือ เป็นการประนอมประโยชน์ในทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
การปรับครม.ก็คือเงาสะท้อนแห่งขนบอันพรรคเพื่อไทยสืบทอดมาจากยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนเป็นสำคัญ
