FootNote “บิลบอร์ด” ณ สี่แยก ห้วยขวาง ความอ่อนไหว เนื่องแต่“จีนเทา”
การปรากฏขึ้นของป้าย“บิลบอร์ด” ภาษาจีนขนาดใหญ่ที่บริเวณสี่แยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม
แม้จะดำรงอยู่ด้วยเวลาอันสั้น นั่นก็คือ เวลา 10.00 น.ของวันที่ 22 กรกฎาคม ป้าย“บิลบอร์ด”นี้ก็ถูกปลดออก
กระนั้น อุณหภูมิทางสังคมก็กึกก้องไปด้วย“คำถาม”
เป็นคำถามและความสงสัยที่เริ่มขึ้นในพื้นที่โซเชียลมีเดีย อาจเรียบเงียบในเบื้องต้น แต่ด้วยเวลาอันรวดเร็วก็แพร่กระจาย
กลายเป็นปรากฏการณ์“ไฟลามทุ่ง”ขึ้นโดยอัตโนมัติ
แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะยืนยันว่ามิได้เป็นเรื่องผิดกฎหมายในเบื้องต้น แต่ก็กลายเป็นกระแสและนำไปสู่การกดดันอย่างมากด้วยพลัง
ไม่เพียงแต่ทางเขตห้วยขวางจะออก“แอ็กชั่น” หากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ก็ออกมาอธิบายเป็นความผิดในการรับจ้าง“ปลอมแปลงเอกสาร”
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้กรณีนี้กลายเป็น“กระแส”และกดดันให้มีการปลดออกอย่างรวดเร็วและฉับพลัน
คำตอบมาจาก“ภาษา”ที่เขียน โยงให้ไปสู่“จีนเทา”
อย่าได้แปลกใจที่นายกรัฐมนตรีจะรุดไปยังบริเวณสี่แยกห้วยขวาง อันเป็นจุดเกิดเหตุ อย่าได้แปลกใจที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะมีคำสั่งการให้คลี่คลายสถานการณ์
อย่าได้แปลกใจที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จะรีบนำคำอธิบายในความผิดว่าดำรงอยู่อย่างไร
เนื่องจากสังคมไทยตกอยู่ในภาวะหวาดระแวงต่อการเข้ามา ของ“จีนเทา” โดยการเปิดโปงอย่างเป็นระบบต่อเนื่องของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผ่านกิจกรรมของ“ตู้ห่าว”
ยิ่งเมื่อพรรคก้าวไกลโดย นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะประธาน คณะกรรมาธิการความมั่นคง สภาผู้แทนราษฎร นำเอาธุรกรรมจากชเวก๊กโกและเนเมียวมาแถลง
สายตาที่มองไปยัง“จีนเทา” จึงยิ่งมากด้วยคำถามและความ
สงสัยโดยโยงไปยังกระบวนการ“คอลเซ็นเตอร์”โดยอัตโนมัติ
“จีนเทา”จึงเป็นภาพจำในสังคมอันมากับ“ภาษาจีน”
ภายในความอ่อนไหวจึงนำไปสู่“ปฏิกิริยา”ในทางสังคมกระทั่งดำรงอยู่ในสภาพอันดำเนินไปในลักษณะเป็นพลังแข็งแกร่ง
กดดันให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อสกัดขัดขวางอย่างมีกัมมันต์
ไม่ว่าจะมองไปยังบทบาทของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะมองไปยังบทบาทของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ว่าจะมองไปยัง กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่
ความอ่อนไหวในทาง“ความคิด”อันนำไปสู่ปฏิบัติการในทาง“การเมือง”จึงมิได้เกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างไร้รากฐาน
