FootNote ความขัดแย้ง ใน พลังประชารัฐ บารมี ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ปรากฏการณ์“คิดถึงลุงป้อม”อันนำเสนอเหมือนกับเป็นการบรรสานและขานรับกับปรากฏการณ์“คิดถึงลุงตู่”ก่อคุณูปการในทางการเมืองได้อย่างลึกซึ้ง
แม้มิได้มาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้มิได้มาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
หากเป็นเสมือน“FC” และ“เครือข่าย”ในทางการเมือง
กระนั้น ปรากฏการณ์เหล่านี้ก็สะท้อนและยืนยันให้เห็นในบทบาทและความหมายแห่งการดำรงอยู่ของพรรคพลังประชารัฐ และของพรรครวมไทยสร้างชาติว่าดำเนินไปอย่างไร
นั่นก็คือ ยังมองและฝากความหวังไว้กับความสำเร็จและความรุ่งเรืองในยุคแห่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อยู่
ขณะเดียวกัน การแสดงออกอย่างต่อเนื่องจนสามารถสร้างให้เป็น“กระแส”ในทางการเมืองก็ทำให้สภาพความเป็นจริงภายในของแต่ละพรรคการเมืองมาอยู่ในความสนใจ
พรรครวมไทยสร้างชาติอาจจะยังนิ่งอยู่ในความสงบ แต่พรรคพลังประชารัฐก็ก่อให้เกิด“ปฏิกิริยา”แหลมคม
ยืนยันให้เห็นว่ากลุ่มใดกันแน่ที่ยึดกุมอำนาจทางการเมือง
ความน่าสนใจจาก“ปฏิกิริยา”ภายในพรรคพลังประชารัฐแม้ว่าทุกฝ่ายจะอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นศูนย์กลางและวางอยู่ในสถานะอันเป็นที่เคารพรัก
กระนั้น ภายในความเชื่อมั่นภายในความเคารพรักและศรัทธานั้นก็มีเงื่อนไขอันดำเนินไปอย่างมีเอกลักษณ์
เป็นเอกลักษณ์ที่ต้องการแยกตัวออกต่างหากจากพรรคเพื่อไทยแม้จะอยู่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเอกลักษณ์ที่ยังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย
ภาพที่ปรากฏในหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างเดือนกรกฎาคมต่อสิงหาคมสะท้อนออกอย่างชัดเจนว่ามีการต่อสู้มีความขัดแย้งดำรงอยู่อย่างมิอาจปฏิเสธได้ภายในพรรคพลังประชารัฐ
เพียงแต่ส่วนหนึ่งพร้อมปฏิเสธบทบาทของพรรคเพื่อไทย แต่อีกส่วนหนึ่งยังยอมรับการนำของพรรคเพื่อไทยไม่เปลี่ยนแปลง
คำถามอยู่ที่ว่า“อำนาจ”อย่างแท้จริงอยู่ในมือของฝ่ายใด
หากมองไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากมองไปยัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็จะเข้าใจอย่างถ่องแท้
ยิ่งเมื่อมองไปยัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ ก็จะได้คำตอบ
สถานะของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังคงสูงเด่นเป็นที่เคารพ ขณะเดียวกัน ก็มิอาจปฏิเสธบทบาทและความหมายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ได้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงต้องฟังเสียง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อย่างเป็นพิเศษ
