สส.ฝ่ายค้านแถลงคดีสลายการชุมนุมหน้าสภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 เกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 85 ราย
โดยระบุว่าในวันที่ 12 ก.ย.2567 เป็นวันที่ศาลจังหวัดนราธิวาสนัดสอบคำให้การจำเลย และ ตรวจพยานหลักฐาน เพื่อกำหนดวันสืบพยานโจทก์และจำเลยในการพิจารณาคดี
แต่ฝ่ายโจทก์มีความกังวล หากจำเลยไม่มาปรากฏตัวต่อศาลในวันดังกล่าว และต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 25 ต.ค.2567 จะส่งผลให้คดีขาดอายุความ เพราะหลักการของการพิจารณาคดีอาญาจะต้องกระทำต่อหน้าจำเลย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ฝ่ายโจทก์คดีตากใบจึงมีความกังวลต่อเรื่องนี้
เหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้าสภ.ตากใบ เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชาชนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 7 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 78 ราย ระหว่างทางลำเลียงไปค่ายทหาร
ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ฝ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และพิการทุพพลภาพอีกส่วนหนึ่ง ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นำตัวเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่การพิจารณาคดีชั้นศาล
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2567 ศาลสั่งรับฟ้องคดี มีจำเลย 7 คน อาทิ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีตผอ.ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อดีตผบช.ภาค 9 และอดีตผวจ.นราธิวาส เป็นต้น
โดยกล่าวหากระทำความผิดในข้อหาฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว
ข้อกังวลของฝ่ายโจทก์ เนื่องจากจำเลยทั้ง 7 ที่ถูกฟ้องต่อศาล ล้วนเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือน โดยเฉพาะหนึ่งในจำเลย ปัจจุบันเป็นสส.ฝ่ายรัฐบาล
จึงมีข้อเรียกร้องประสานความร่วมมือ หรือการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่จะให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไป เพราะหากจำเลยไม่มาปรากฏตัวต่อศาล ก็จะส่งผลต่อการพิจารณาคดี ซึ่งเหลืออายุความอีกไม่กี่วัน
รัฐบาลยุคนายเศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องถึงชุดปัจจุบันได้ส่งสัญญาณต่อความมุ่งมั่นแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งพลเรือนเป็นหัวหน้าคณะพูดคุย หรือการปรับกระบวนการทำงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ดังนั้น การประสานความร่วมมือทางคดีตากใบ ควบคู่กับการพูดคุยเจรจาที่รัฐบาลทำอยู่ ยิ่งจะเป็นผลดีต่อการสร้างสันติภาพ
