รัฐบาลวางแผนจูงใจให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยอำนวยความสะดวกให้ตั้งแต่การเดินทางจนก้าวย่างลงจากเครื่องบิน
โดยหวังว่าการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยให้เกิดการใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการและสร้าง รายได้เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว
ระหว่างนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในแคมเปญแอ่วเหนือคนละครึ่ง เชิญชวนท่องเที่ยวภาคเหนือ
ส่วนหนึ่งเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่เมืองหลักและเมืองรองของการท่องเที่ยว กระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งมีผู้สนใจลงทะเบียนของรับสิทธิต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
ล่าสุดเป็นที่น่ายินดี ที่แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก อโกด้าจัดอันดับให้กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองอันดับที่ 1 ของ 10 จุดหมายปลายทางที่ได้รับการจองเที่ยวบินมากที่สุด
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นอันดับ 2 ของ 10 จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเดินทางมาเยี่ยมเยียนด้วยเช่นกัน แสดงถึงศักยภาพและจุดแข็งของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแรงดึงดูดความสนใจ
ที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการรณรงค์อย่างจริงจัง เชิญชวนชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ และประสบความสำเร็จมาแล้วจากแคมเปญปีท่องเที่ยวไทย
สถิติปัจจุบัน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมายังประเทศไทยแล้วกว่า 21 ล้านคน คาดว่าในช่วงไฮซีซันส์นี้จะเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ ครอบคลุมเกือบทุกด้าน ทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภูเขา ทะเล แหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมประเพณี โบราณสถาน กิจกรรมประจำเทศกาล และอาหารการกิน
ดังนั้น การบริหารจัดการ การอำนวยความสะดวกต่างๆ จะต้องจัดเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพอย่างมืออาชีพ เพื่อโน้มน้าวให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ พักอยู่นานขึ้นหรืออยากกลับมาอีก
นอกจากนี้ หน่วยงานของรัฐยังต้องเข้มงวดด้านสวัสดิภาพ ความปลอดภัย ขจัดปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ หรือการหลอกลวงด้วยเล่ห์กลต่างๆ ที่ไม่สุจริต
ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้จนถึงต้นปีหน้า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติพากันเดินทางมาเยี่ยมเยียนท่องเที่ยวในประเทศเราเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการใช้จ่ายอย่างมหาศาล ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วย