คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กำหนดนัดประชุมในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมด้วย

วาระดังกล่าว กระทรวงการคลังจะเสนอแนวทางการกระจายเงินช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุให้พิจารณา อันเป็นโครงการต่อเนื่องจากการแจกเงินให้กลุ่มเปราะบางและคนพิการเมื่อเดือนกันยายน

หลักเกณฑ์เบื้องต้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังระบุมีความเป็นไปได้ที่จะแจกเงินก้อนเดียวเป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาท โดยจะเริ่มตั้งแต่ผู้มีอายุ 50 ปี หรือ 60 ปี

เนื่องจากกลุ่มนี้ มีความสามารถในการทำรายได้น้อยกว่ากลุ่มอื่น และมีผู้ได้รับสิทธิ์ไม่มากเท่าเฟสแรก โดยจะไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มที่ได้รับไปแล้ว คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

สําหรับเฟสแรกที่รัฐบาลโอนจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ จำนวน 1.455 แสนล้านนั้น ยังเหลือ 2 งวด ซึ่งเป็นการเก็บตก เนื่องจากมีผู้ทำรายการไม่สมบูรณ์ ซึ่งเหลือจำนวนไม่มากนัก

กำหนดจ่ายซ้ำอีกในวันที่ 22 พฤศจิกายน และครั้งสุดท้ายจะต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ให้สำเร็จก่อนวันที่ 16 ธันวาคม ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการก่อนวันที่ 3 ธันวาคม และจะได้รับเงินวันที่ 22 ธันวาคม

หลังจากนี้ จะถือว่ามีผู้ที่ได้สิทธิไม่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ และกระทรวงการคลังจะได้นำเงินที่เหลือคืนสู่ระบบ เพื่อดำเนินการระเบียบราชการต่อไป

สำหรับการแจกเงินให้กลุ่มเปราะบางช่วงที่ผ่านมานั้น กระทรวงการคลังประเมินว่าสามารถช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือจีดีพีจะโตได้ถึง 4.3-4.4%

สําหรับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ไว้แล้ว กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะได้รับเงิน 10,000 บาทครบทุกคน ซึ่งรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้รองรับแล้วกว่า 1.8 แสนล้านบาท

แต่กำหนดเวลาและเงื่อนไขเป็นอย่างไร ต้องหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน เพื่อรับฟังความเห็นจากหลายหน่วยงานก่อน เพื่อให้ได้ข้อสรุป

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังจะเสนอภาพรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นภาพใหญ่ทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจครบถ้วนทุกมิติ

อย่างไรก็ตาม โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการแจกเงิน 1 หมื่นนั้น แม้จะแม่นยำไม่มากตามที่ตั้งใจ แต่ก็กระจายเม็ดเงินทำให้เกิดการใช้จ่ายอย่างมาก และเฟสต่อจากนี้ ที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะผู้สูงอายุที่ขาดสภาพคล่อง ก็น่าจะเพิ่มการใช้จ่ายได้ตามเป้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน