สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาอบจ. และนายกอบจ. โดยจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัด
การเลือกตั้งครั้งนี้จะเลือกเฉพาะสมาชิกสภาอบจ. 29 จังหวัด ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะได้รับบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว เนื่องจากมีการเลือกนายก อบจ.ไปแล้ว ส่วนอีก 47 จังหวัดจะเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ. จะได้รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
กกต.ระบุว่าเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตื่นตัวออกมาเลือกตั้ง ลดจำนวนบัตรเสีย ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของทุกภาคส่วน การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568
กกต.คาดหวังว่าประชาชนจะเห็นความสำคัญของการเลือกตั้งอบจ. และร่วมกันออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายแสดงความกังวลต่อการบริหารจัดการเลือกตั้งของกกต. โดยเฉพาะการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่ยังน้อยไปหรือไม่
ล่าสุดกรรมาธิการ (กมธ.) วุฒิสภา มีข้อสังเกตน่าสนใจ คือการกำหนดวันเลือกตั้งตรงกับวันเสาร์ เนื่องจากภาคเอกชนหลายแห่งเปิดทำงานวันเสาร์ จึงไม่สะดวกสำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ทำงานต่างถิ่น
ไม่จัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกภูมิลำเนา เป็นอุปสรรคต่อผู้ทำงานนอกถิ่นฐาน อาจส่งผลให้ผู้ที่ทำงานนอกเขตเลือกตั้งกลับมาใช้สิทธิ์กันน้อย และอาจทุจริตสวมสิทธิ์แทนผู้เลือกตั้งได้
อีกประการคือ กกต.รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์น้อยเกินไปหรือไม่ เมื่อเทียบกับงบประมาณจัดการเลือกตั้งเกือบ 5 พันล้านบาท
การเลือกตั้งอบจ.ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 ถือเป็นวันสำคัญหนึ่งในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ที่ประชาชนในท้องถิ่นจะร่วมกันกำหนดทิศทางความเป็นไปของท้องถิ่นตนเอง
ขณะเดียวกัน กลุ่มและพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ต่างให้ความสนใจไม่น้อยกว่าการเลือกตั้งสส.ระดับชาติ ด้วยการส่งผู้สมัครในนามพรรค และสนับสนุนผู้สมัครลงเลือกตั้ง
แต่ที่ผ่านมาก็เกิดข้อกังวล ข้อทักท้วง และข้อห่วงใยต่อการทำหน้าที่ของกกต. เช่น การกำหนดวันเลือกตั้ง และการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต เป็นต้น
สุดท้ายแล้วก็ยังหวังว่า กกต.จะควบคุมดูแล เฝ้าระวังป้องกัน เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใส ยุติธรรม ให้ผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับมากที่สุด