บทบรรณาธิการ - ขยายกลุ่มหวยเกษียณ

กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการหวยเกษียณว่าขณะนี้ร่างแก้ไขพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ตรวจร่างเสร็จแล้ว โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาภายในเดือนนี้

หวยเกษียณมีลักษณะเป็นสลากขูดแบบดิจิทัลใบละ 50 บาท ขายให้ประชาชนสัญชาติไทยอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป และซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. รับรางวัลได้ทันทีผ่านพร้อมเพย์

เงินซื้อสลากทั้งหมดจะเก็บไว้เป็นเงินออม แม้ไม่ถูกรางวัลก็ตาม โดยเงินรางวัลมีดังนี้ รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล รางวัลที่ 2 เป็นเงิน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล และรางวัลพิเศษหรือแจ๊กพอต 1 รางวัล

หากงวดใดรางวัลออกไม่หมด จะทบยอดเป็นรางวัลพิเศษในงวดถัดไปทั้งหมดทันที ซึ่งจะสร้างแรงจูงใจให้เกิดการออม เพื่อนำเงินมาใช้เมื่ออายุครบกำหนด 60 ปี นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่อายุเกิน 60 ปีสามารถซื้อสลากได้ด้วย

โครงการ “สลากออมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณหรือหวยเกษียณ” เป็นการแรงจูงใจให้ทุกกลุ่มอาชีพได้ออมเงินที่ซื้อหวยแล้วเงินไม่หาย ทุกบาทที่ซื้อ จะกลายเป็นเงินออมและได้คืนเมื่อเกษียณ

เป็นกลไกที่ออกมาเพื่อสนับสนุนการออมของประเทศ โดยใช้วิถีชีวิตคนไทยที่ชอบลุ้นโชค ผนวกกับภาวะการขาดการออมของคนไทย จึงต้องกุศโลบายนี้ให้เก็บออมผ่านการซื้อหวยเกษียณช่องทางใหม่

รัฐบาลระบุว่าโครงการนี้ใช้เงินงบประมาณปีละไม่ถึง 1,000 ล้านบาทในการจ่ายรางวัล แต่จะมีเงินเป็นจำนวนมหาศาลที่ประชาชนร่วมกันเก็บออมเพื่อใช้จ่ายยามสูงวัยตามมา

ประกอบกับประเทศไทยใกล้เข้าสู่สังคมสูงวัย ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากดูแลประชากรกลุ่มนี้ การส่งเสริมให้เก็บออมตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นทางออกให้สามารถช่วยเหลือตัวเองยามชราภาพได้ระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม กว่ากฎหมายฉบับนี้จะออกมามีผลบังคับใช้ ยังต้องมีขั้นตอนระยะเวลาช่วงหนึ่งตามกระบวนการตรากฎหมาย คาดว่าไม่น่าจะเกินสิ้นปีนี้หรือไตรมาสที่ 4 หรืออาจเร็วกว่านั้น

ดังนั้นในระหว่างนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรประชาสัมพันธ์สร้างความตื่นตัว รับรู้ ตลอดจนสร้างแรงจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์ซื้อสลาก ได้เตรียมความพร้อมไว้ว่าเงินต้นไม่หาย แถมได้ผลตอบแทนตอนเกษียณ

ถ้าหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ เป็นที่นิยม ประชาชนตอบรับสูง ก็จะสามารถสร้างสังคมการออมเงินที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวางที่สุดอีกสังคมหนึ่ง เพราะเปิดโอกาสขยายให้ทุกกลุ่ม

ยกตัวอย่าง กลุ่มวัยทำงานอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป จะมีระยะเวลาออมนานถึง 35 ปีกว่าจะเกษียณ ถ้าออมเต็มที่ซื้อสลากเต็มตามเงื่อนไขเดือนละ 3,000 บาท ก็จะมีเงินเก็บเกิน 1 ล้านบาททุกคน ซึ่งหากได้ผลตามเป้าหมาย ก็ถือเป็นโครงการที่น่าสนับสนุน