การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2568
ผลปรากฏว่า น.ส.แพทองธารได้รับเสียงไม่ไว้วางใจ 162 เสียง ไว้วางใจ 319 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ซึ่งคะแนนไม่ไว้วางใจไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงถือว่าน.ส.แพทองธารได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
จากการตรวจสอบผลคะแนนที่ไว้วางใจนายกฯ 319 เสียง เป็นเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลที่ลงคะแนนไปในทางเดียวกันหมด และคะแนนเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านมาช่วยลงมติไว้วางใจด้วย 7 เสียง
ยืนยันถึงจำนวนเสียงที่ท่วมท้นในสภาผู้แทนฯ ไว้วางใจน.ส.แพทองธาร ให้เป็นนายกฯ บริหารประเทศต่อไป
สำหรับการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ กับคณะจำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ
พรรคร่วมฝ่ายค้านกำหนดบุคคลเป้าหมายอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงคนเดียว คือน.ส.แพทองธาร นายกฯ ด้วยข้อกล่าวหารุนแรง อาทิ ขาดภาวะผู้นำ ไม่มีวุฒิภาวะ ประพฤติตัวเหนือปัญหา และถูกบุคคลในครอบครัวครอบงำ เป็นต้น
ตลอดวันที่ 24-25 มี.ค. 2568 ระหว่างการอภิปรายกล่าวหาของสส.ฝ่ายค้าน การตอบชี้แจงของนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประท้วง และการปฏิบัติหน้าที่ของประธานในที่ประชุม
บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยดี และเชื่อว่าประชาชนวิเคราะห์ตัดสินเองได้ ว่าการกล่าวหามีข้อมูล ข้อเท็จจริง หลักฐาน และฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาตอบชี้แจงได้ครบถ้วน ตรงประเด็น กระจ่างชัดหรือไม่
นายกฯ ระบุว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปได้ด้วยดี ขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งคณะรัฐมนตรีที่ร่วมชี้แจง สส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่ร่วมกระบวนการตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของประเทศ
ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุพอใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ยังไม่พอใจคำชี้แจงของรัฐบาล พร้อมยืนยันเดินหน้าตรวจสอบการทำงานของนายกฯ และรัฐบาลต่อไป ทั้งผ่านการขับเคลื่อนในชั้นกรรมาธิการ และการเปิดเผยข้อมูลในสภา
จากนี้นายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลต้องเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย และแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ภาระค่าครองชีพประชาชนที่เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้
ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงข้อทักท้วง การท้วงติง และข้อสังเกตต่างๆ จากการตรวจสอบของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาด้วย
