“สนธยา”ลั่นไม่เหนือคาดหมายประเมินแล้วพลังชลโดนตีถูกดูด หลังตัดสินใจช่วยงานรบ.”บิ๊กตู่”แต่ไม่ขอตอบโต้ให้รอพิสูจน์ผลงาน ยันรับผิดชอบสิ่งที่ตัดสินใจ ยัน ณ เวลานี้หนุนนายกฯ ส่วนหลังเลือกตั้งอย่างไรต่อรอดูอนาคต

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่รร. เรอเนสซองส์ นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล และ ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีพรรคพลังชลถูกมองถูกดูดเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อการเลือกตั้งในอนาคตว่า การเข้ามาทำงานในครั้งนี้อยากให้มองว่ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองมากกว่า เพราะว่าเราได้รับการทาบทามให้เข้ามาช่วยงานระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ(อีอีซี) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายหรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ถือเข้ามาจุดเร้ิมต้นอีอีซี ผลักดันส่ิงที่จะเกิดตามนโยบายหรือโครงการต่างๆ เราเป็นคนอยู่ในพื้นที่เหมือนเป็นตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และเป็นตัวแทนภาคประชาชน องค์กรต่างๆถือเป็นจุดสำคัญในการขับเคลื่อนอีอีซีทำให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อถามว่าการตัดสินใจครั้งนี้คิดอยู่แล้วหรือไม่ว่า เป็นการเลือกข้างการเมืองในอนาคตในการเลือกตั้ง นายสนธยา กล่าวว่า ตนคิดอยู่แล้วว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ไม่เหนือจากส่ิงที่คาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคำพูดผู้หลักผู้ใหญ่หรือว่าคำพูดของแต่ละพรรค ซึ่งตนเชื่อว่าแต่ละคนรับผิดชอบคำพูดของตัวเองอยู่แล้ว แต่ส่ิงที่สามารถพิสูจน์ได้คือการทำงาน และจะเห็นว่าตนไม่มีการตอบโต้ เพราะการเข้ามาทำงานครั้งนี้ไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องของการเมืองว่าต้องหนุนหรือไม่หนุน เพราะวันนี้ยังไกลเกินกว่าที่จะพูดเรื่องนั้น

“ผมยืนยันมาตลอดในฐานะหัวหน้าพรรคพลังชลว่า พลังชลก็คือพลังชล การที่เราได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ก็เพราะว่าเรื่องของอีอีซี อย่างตัวผมเข้ามาชาวบ้านก็ถามผมเยอะ ซึ่งผมก็พูดกับชาวบ้านอย่างเดียวว่าเข้ามาทำเรื่องอีอีซี ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจ พรรคพลังชลยึดถือการเมืองที่ตรงไปตรงมา เรารับผิดชอบทุกเรื่องที่ตัดสินใจ ทุกคำพูดที่พูดออกมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งนี้ตนพร้อมตอบคำถามหรือพูดคุย พร้อมให้ติดตามพิสูจน์เรื่องการทำงาน นับตั้งแต่เราวันที่เราตัดสินใจร่วมรัฐบาล ทั้งผมและนายอิทธิพล คุณปลื้ม ที่มาเป็นผู้ช่วยรมต.การท่องเที่ยวและกีฬา เราถือว่าเราได้ประเมินสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว “นายสนธยากล่าว

เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าการตัดสินใจเข้าช่วยงานรัฐบาล จะทำให้เกิดความใด้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง นายสนธยากล่าวว่า โดยปกติแล้วในฐานะคนทำงานรัฐบาล ตนเองทำงานกับนายกฯมาหลายท่านและหลายรัฐบาล ในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆตามนโยบายนั้น ประการแรกคือต้องเป็นนโยบายของพรรค นโยบายของรัฐบาล ต้องเป็นการร่วมมือกันระหว่างแกนนำของพรรคและแกนนำรัฐบาล โครงการแต่ละอย่างที่ออกมานั้น ก็เพื่อในการตอบคำถามในการเลือกตั้งและเป็นการตอบคำถามในเรื่องการที่จะเดินหน้า ซึ่งตนเชื่อว่าคงไม่มีรัฐบาลไหน จะสร้างนโยบายขึ้นมาเพื่อไม่ให้เกิดประโยชน์กับรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาล และนโยบายต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นก็เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ อันนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

นายสนธยากล่าวว่า สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ก็พูดอยู่หลายครั้งว่าในการเข้าสู่สนามการเมืองนั้นว่า ท่านเองเป็นทหารทำงานการเมือง ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริหารตั้งแต่ท่านนายกฯ และรัฐมนตรีคือการทำงานทางการเมือง เพราะการเมืองถือว่าอยู่ในทุกภาคส่วนของประเทศ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดที่สำคัญ อย่างไรก็แล้วแต่ในการทำงานของท่านก็คือการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเมืองในส่วนของรัฐบาลกับประชาชน หรือในส่วนของการที่จะต้องทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป เพราะการเมืองได้สอดแทรกทุกอาณูของบ้านเมืองอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า เร็วหรือไม่ที่จะพูดว่าพรรคพลังชลสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไปหลังการเลือกตั้ง นายสนธยากล่าวว่า ถ้าพูดถึงในวันนี้ในการเข้ามานั้นตนก็สนับสนุนท่านอยู่แล้ว ถ้าไม่สนับสนุนท่านหรือแนวทางของท่านเราคงไม่เข้ามานั่งทำงานร่วมกับท่าน แต่ในส่วนที่ว่าเราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันหรือไม่นั้น อย่างที่ท่านนายกฯบอกว่ายังไม่มีการเลือกตั้งและยังไม่มีประกาศแนวทางทางการเมือง ไม่รู้ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ดังนั้นเราก็ต้องมองอนาคตข้างหน้าว่าเป็นอย่างไรด้วย

“และวันที่ 1 พ.ค. ผมจะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล” นายสนธยา กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน