“สุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่แทนบิ๊กตู่ ในวันที่ 6 พ.ค เพื่อพูดคุยแกนนำเครือข่ายแก้ปัญหาบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ ระบุสร้างบ้านพักให้แล้วเสร็จ แล้วอาจจะมีแนวคิดกันเป็นเขตอุทยาน ย้ำเป็นแค่หนึ่งในทางออก ต้องแก้กฎหมายถึงจะทำได้

เมื่อวันที่ 2พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับภาคเครือข่ายประชาชนเพื่อทำความเข้าใจเรื่องแก้ปัญหาบ้านพักตุลาการศาลภาค5ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ตนจะลงพื้นที่ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ ไปพูดคุยกับเครือข่ายภาคประชาชน 17 เครือข่าย ซึ่งทางผู้ตรวจประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้พิจารณาผู้ที่จะเข้ามาร่วมพูดคุย คงไม่ได้คุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยตรง เนื่องจากการประชุมเกี่ยวกับรายละเอียดที่จะต้องนำมาพูดคุย ซึ่งบางเรื่องอาจจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา แต่การพูดคุยจะพยายามจะให้ได้ข้อยุติในวันดังกล่าว ที่ผ่านมารัฐบาลรับฟังความเห็นและเห็นข้อเสนอแนะมาครบถ้วนรวมทั้งความเห็นประชาชนทางโซเชียลที่หลากหลายดังนั้นประเด็นหลักของการพูดคุยจะพูดกันในภาคปฏิบัติว่าอะไรจะทำได้ก่อนหลังในระยะที่หนึ่งสองและสามแต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะทำอะไรในระยะที่หนึ่ง ระยะที่สอง ระยะสาม เราพยายามจะให้การพูดคุยจะได้ให้ข้อยุติ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าหลังจากคุยในวัน6 พ.ค.แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเมื่อลงไปพูดคุยแล้วก็ต้องนำข้อมูลกลับมาทำงานต่อ ทั้งนี้นโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก ตรี อยากให้ปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขได้โดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกลำบากใจหรือไม่เนื่องจากเรื่องนี้ถูกกดดันจากคนในพื้นที่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า การแก้ไขความเห็นที่ไม่ตรงกันเป็นเรื่องยาก เรื่องทุกเรื่องหากทุกฝ่ายเห็นว่าควรยืนอยู่บนหลักความจริงและความถูกต้องก็น่าจะมีทางออกได้ การพูดคุยจึงต้องเปิดกว้างและทางเครือข่ายก็อยากพูดคุยเช่นเดียวกันเป็นการพูดคุยเพื่อดำเนินการในทางปฏิบัติสมมติว่ามีข้อเสนอให้หรือก็ต้องดูว่าทำได้ทันทีหรือไม่หรือกฎหมายให้อำนาจไว้อย่างไรแต่การพูดคุยไม่สามารถยกประเด็นหนึ่งขึ้นมาพูดแล้วจะให้จบทุกอย่าง เพราะมีเชื่อมโยงถึงกันหมดรวมถึงการใช้ประโยชน์

เมื่อถามว่าเครือข่ายบางส่วนก็มีข้อเสนอให้ดำเนินการสร้างต่อให้เสร็จ และกันให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ นายสุวพันธ์ กล่าวว่า ก็อาจเป็นไปได้” แต่วิธีการที่จะทำให้เป็นไปได้จะทำอย่างไร เพราะในสภาพความเป็นจริงพื้นที่ราชพัสดุถ้าต้องการให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ก็ต้องมาดูว่าจะใช้กฎหมายข้อไหนมาดำเนินการ และถ้าทำจะเป็นสิ่งที่ในพื้นที่ต้องการหรือไม่หากต้องการและเป็นประโยชน์กับส่วนรวมหรือไม่ถ้าเป็นก็ต้องหาทางออกเพื่อให้ทำได้

ต่อข้อถามว่าจะนำมาตรา 44 มาใช้เป็นทางของปัญหาในเรื่องนี้ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกเรื่องถ้าใช้กฎหมายปกติได้ก็เป็นเรื่องดี วันข้างหน้าเมื่อไม่มีมาตรา 44 แล้วจะทำอย่างไรและหัวหน้าคสช. ก็บอกชัดเจนว่าจะใช้มาตรา44 เท่าที่จำเป็นและเมื่อถึงเวลาจำเป็นเท่านั้น ถ้าหาทางออกด้วยวิธีการปกติได้ก็ใช้วิธีการปกติและเชื่อว่าขณะนี้กฎหมายปกติยังทำได้ แม้ว่ามาตรา 44จะเห็นผลได้ทันทีแต่ไม่รู้ว่าผลกระทบที่ตามมาจะเป็นอย่างไรแต่กฎหมายปกติเคยผ่านการใช้มานานแล้วก็น่าจะดีและเป็นประโยชน์มากกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน