เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงเสียงวิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจร เป็นการใช้งบประมาณสิ้นเปลืองและอาจมีวาระการเมืองซ่อนเร้นว่า แล้วแต่คนมอง หากเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างรัฐบาล คงมองว่ารัฐบาลทำหน้าที่แม้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของชาวบ้าน แล้วพิจารณางบประมาณสนับสนุน ถือเป็นความชอบธรรมที่รัฐบาลทำได้ และรัฐบาลควรทำเช่นเดียวกันทั่วทุกภูมิภาค ทุกจังหวัดยิ่งดี

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า แต่ถ้าเป็นฝ่ายที่เห็นต่าง ก็พูดเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากปี่กลองเลือกตั้งจะเริ่มดังขึ้นแล้ว การที่นายกฯลงพื้นที่เช่นนี้ ทำให้คนมองเป็นประเด็นการเมืองและอดคิดไม่ได้ว่าครม. คสช.ทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะเท่ากับเอางบประมาณมาหาเสียง นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กำลังจะตั้งพรรค จึงถูกมองว่าเกี่ยวพันกับรัฐบาล เพราะนายสมคิดคือมันสมองของรัฐบาลในด้านเศรษฐกิจ เป็นการแตกโยงทางการเมือง ฉะนั้น หากนายกฯบริสุทธ์ใจ ก็ต้องอดทนต่อเสียงวิจารณ์ เว้นแต่จะมีเจตนาที่เคลือบแฝง ทำให้หวาดระแวงว่ามีคนรู้เท่าทัน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การที่นายกฯ ตัดพ้อว่าทำอะไรก็ถูกมองเป็นเรื่องการเมืองหมดนั้น ขอให้นายกฯ ทำใจให้หนักแน่น ต้องถือเป็นบุคคลสาธารณะ การโดนวิจารณ์เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย หากมีเจตนาสุจริต มีความหนักแน่นก็ไม่ต้องหวั่นไหวกับเรื่องนี้ ตอนนี้นายกฯ ต้องยอมรับว่าเหมือนก้อนกรวดเล็กๆ อยู่ในรองเท้า ถ้าเดินดีก็ไม่โดน แต่ถ้าเดินไม่ดีก็เจ็บและรำคาญ ในเมื่อเป็นบุคคลสาธารณะ อย่าไปหวั่นไหวกับสิ่งเหล่านี้เลย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องพลังดูดนั้นจะไม่มีความหมายเลย หากคนมีอุดมการณ์ มีความยึดมั่น ก็เหมือนการซื้อสิทธิขายเสียงย่อมมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จึงอยู่ที่ตัวนักการเมืองด้วย วันนี้สังคมต้องการเห็นการปฏิรูปการเมือง เห็นนักการเมืองมีอุดมการณ์ มีอุดมคติ เพราะนักการเมืองที่ยอมขายตัว ยอมละทิ้งอุดมการณ์ ปล่อยให้เขาดูดไปในวันนี้ ประชาชนไม่วิจารณ์แต่จะไปตัดสินคนเหล่านั้นในคูหาเลือกตั้งเมื่อวันนั้นมาถึง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน