เมื่อวันที่ 18 พ.ค.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า คสช.บริหารประเทศใกล้ครบ 4 ปีหากให้ประเมินหากให้ประเมินผลงานต้องบอกว่า ทำประเทศเสื่อมถอยและล้มเหลวในทุกด้าน โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพของประชาชน แม้แต่พรรคเพื่อไทยวิจารณ์ 4 ปี ผลงานคสช. ยังถูกปิดกั้นและถูกดำเนินคดีแล้วใครจะเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในต้นปี2561 และที่ผ่านมา คสช.ผิดคำพูดและเลื่อนการเลือกตั้งมาโดยตลอด ตลอด4ปีที่ผ่านมาการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยขยายตัวต่ำสุดในอาเซียนมาทุกปีโดยเวิร์ลแบงค์และเอดีบี บอกว่า ไม่มีทางที่รัฐบาลนี้จะสามารถทำให้เศรษฐกิจโตแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ แม้ปีนี้จะโตได้ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังต่ำสุดในอาเซียน และยังโตต่ำกว่าปี 2555 ในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่โตถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ และการโต 4 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่มากที่สุดในทศวรรษ
อย่างที่ นายสมคิด รองนายกฯ พูดเกินจริงไว้ จึงอยากให้นายสมคิดเช็คข้อมูลให้ดีก่อนพูด เพราะพูดเกินจริงแบบนี้หลายครั้งแล้ว อีกทั้งการลงทุนภาคเอกชนหดหาย และการกระจายรายได้ย่ำแย่สุด หล่นไปอันดับ 3 ของโลก ถึงแม้รัฐบาลจะใช้งบประมาณมหาศาล แต่ประชาชนส่วนใหญ่กลับยังลำบาก มีแต่เศรษฐีและพ่อค้าใหญ่เท่านั้นที่ได้ประโยชน์ และยังทำให้เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีการทุจริตเกิดขึ้นไปแทบทุกกระทรวง เช่น การโกงเงินคนจนกว่า 60 จังหวัด โกงเงินเด็กในกระทรวงศึกษา โกงในร้านธงฟ้าประชารัฐขายของเกินราคาให้บัตรคนจน โกงเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีในกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ หรือ แม้กระทั่งโกงเงินวัคซีนพิษสุนัขบ้า เป็นต้น
นายพิชัย กล่าวว่า หากเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้วพบว่ามีการโกงขนาดนี้ รัฐบาลคงจะอยู่ไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ผู้นำยังมีความคิดผิดเพี้ยน ทั้งการบ่นว่าเงินเดือนน้อยสุดในอาเซียนทั้งที่ปฏิวัติเข้ามาเอง การด่าว่านักการเมืองว่าแย่และเลวมาตลอด 3 ปี แต่พอใกล้เลือกตั้งกลับชมและพูดดี พร้อมมีข่าวการพยายามดูดส.ส. เพื่อสนับสนุนตัวเองเพื่อสืบทอดอำนาจหลังการเลือกตั้ง จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันพิจารณาว่า 4 ปีที่ผ่านมายังแย่ขนาดนี้ หากปล่อยให้มีการสืบทอดอำนาจ ประเทศจะย่ำแย่ขนาดไหน ขอให้ประชาชนมองประเทศมาเลเซียเป็นตัวอย่างในการสั่งสอนรัฐบาลที่บริหารประเทศล้มเหลวและมีคอรัปชั่นมาก
