เมื่อเวลา 16.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้ย้ายสถานที่มาจัดกิจกรรมการชุมนุม บริเวณด้านหน้าหอประชุมใหญ่ แทนบริเวณสนามฟุตบอล เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยปิดห้ามใช้งาน โดยมีประชาชนนทยอยเข้าร่วมการชุมนุมตั้งแต่ช่วงบ่าย ประมาณ 100 คน

ต่อมาได้มีการสั่งปิดประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ด้านสนามหลวงที่ติดกับสถานที่ชุมนุม ส่วนทางเข้าฝั่งท่าพระจันทร์และท่าพระอาทิตย์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขวางทางเข้าไว้ ทำให้ประชาชนบางส่วนที่เข้าไม่ถึงพื้นที่การชุมนุม ได้เดินมาจับกลุ่มรวมตัวกันนั่งฟังการปราศรัยบริเวณป้ายรถเมล์ด้านสนามหลวง นอกรั้วมหาวิทยาลัยที่ติดกับพื้นที่ชุมนุม ซึ่งสร้างความไม่พอให้ผู้ชุมนุม มีการโห่ร้องเสียงดัง และดังยิ่งขึ้น เมื่อพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ผ่านมาสังเกตการณ์

ต่อมาเวลา 17.20 น. ที่หน้าหอประชุมใหญ่ มธ. แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดยนายรังสิมันต์ โรม นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ร่วมกันแถลงถึงมาตรการเคลื่อนไหวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า “การรวมตัวกันวันที่ 21 พ.ค. เพื่อปักหลักรอประชาชนคนอื่นไม่ว่าภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน มาร่วมกับเรา เดินไปยังทำเนียบรัฐบาลช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค. จึงขอเชิญชวนค้างคืนร่วมกิจกรรมด้วยกัน จนถึงเช้าวันที่ 22 พ.ค. เมื่อการจราจรเริ่มนิ่งไม่เดือดร้อนคนอื่น ก็จะไปทำเนียบฯ เพื่อตะโกนบอกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ว่า ต้องเลือกตั้งปีนี้ ตามสัจจะที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยสัญญาไว้”

“หากเลื่อนออกไปอีก คำสัญญาก็ไม่มีความหมาย การเลือกตั้งจะต้องมีเพื่อเปลี่ยนจากระบอบเผด็จการสู่ระบอบประชาธิปไตย ส่วนประตูที่ปิดอยู่ก็จะเปิดให้เข้ามา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถห้ามผู้ชุมนุมได้ การชุมนุมในมหาวิทยาลัยสามารถทำได้ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ”

นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า “แนวทางการต่อสู้ของเราคือสันติวิธีและปราศจากอาวุธ อย่าเอาอาวุธมาโยนให้พวกเรา หยุดกล่าวหา ป้ายสี ประชาชน อยากเลือกตั้งไม่ใช่อาชญากร เจ้าหน้าที่ต้องอย่าขัดขวางการชุมนุม ความมั่นคงของประเทศ คือความมั่นคงของประชาชน ที่ต้องมีสิทธิมีเสียง ไม่ใช่อยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการแบบนี้”

“วันที่ 22 พ.ค. เวลา 08.30 น. เมื่อหลายคนทำงานหรือส่งบุตรหลานไปโรงเรียนเสร็จแล้ว เราจะเดินไป และต้องถึงแน่หากไม่มีการขัดขวาง แล้วจะตะโกนบอกผู้มีอำนาาจว่า เลือกตั้งปีนี้ ถ้ายังไม่ทำจะมีการยกระดับเพิ่มขึ้นแน่นอน หากมีการสกัดกั้น เรามีหน่วยสันติวิธีคอยทำหน้าที่เจรจาเรื่องนี้อยู่ หากมีการยื้อคือเกิดจากฝ่ายความมั่นคง ไม่ใช่พวกตน อย่ามาขวางเลย ปล่อยให้พวกตนไปถึงดีกว่าจะได้จบเร็วๆ ถ้ามีการใช้ความรุนแรงก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะพวกเราไม่มี”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน