จากกรณีมีรายงานข่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน ส่งเจ้าหน้าที่ประสานไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่าจะมีการไปจดแจ้งชื่อ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” โดยจะมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อธิการบดีวิทยาลัยบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกรรมการคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง รวมถึงเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ มาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พ.ค. นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กเพจ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas ว่า คืนนี้ผมอยู่ปักกิ่งครับ นำนักศึกษากว่าหกสิบคน ทั้ง ป เอกและ ป โท ทางรัฐประศาสนศาสตร์ของ มรังสิต มาดูงาน มีข่าวแพร่ระบาดที่เมืองไทยว่าผมถูกทาบเป็นหัวหน้าพรรคของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ มีคนตื่นเต้นและอยากทราบด่วนมากว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่

ขอชี้แจง ณ ที่นี้ ด้วยความสัตย์จริงว่า

หนึ่ง ยังไม่มีใครตั้ง ไม่มีใครทาบทาม ผมเป็นหัวหน้าพรรค และผมก็ไม่ได้ตั้งตนเอง เป็นหัวหน้าพรรคใหม่ ที่จะจดทะเบียนชื่อว่ารวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช นะครับ หากมีนักการเมืองใหญ่ นายทุนพรรค หรือผู้มีบารมีคนเดียว หรือ ไม่กี่คนมาตั้งผม ขอไม่เป็น จะไม่เป็น นะครับ ขอชี้แจงว่าคุณสุเทพ เทือกสุบรรณไม่ได้มาทาบทามผมเป็นหัวหน้า และถ้ามาทาบทามผม ผมก็ไม่ขอรับครับ เพราะผมเบื่อหน่ายการตั้งพรรค และการทำการเมืองแบบเก่าๆ ออกกลิ่นน้ำเน่า แบบนั้น

สอง หลายเดือนที่ผ่านมา มีคณะผู้ก่อตั้งพรรคหลายร้อยคน รวมตัวกันคร่ำเคร่งอย่างเงียบๆ จริงครับ ผมเข้าร่วมกับพวกเขาพอสมควร เรา ได้ประสานงาน ระดมปัญญา กันและกัน และเรามีเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่จะร่วมสร้างพรรคการเมืองแบบใหม่ แบบที่รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ ต้องการและตามที่แผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองที่ผมเป็นประธานอยากเห็น พรรคนี้จะเป็นสถาบันแห่งความดีงาม พรรคนี้จะเป็นหลักชัยให้บ้านเมือง จะเป็นพรรคที่ยึดหลักธรรมาธิปไตย เป็นพรรคที่ให้อำนาจให้บทบาทและการตัดสินใจสำคัญแก่มวลสมาชิก จะไม่ปล่อยให้พรรคต้องถูกผูกขาดหรือตกเป็นของเจ้าของพรรคหรือของผู้นำพรรคเพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียว ตลอดกาล หรือเกือบตลอดกาล พรรคแบบใหม่นี้จะไม่มุ่งเพียงชนะการเลือกตั้ง แต่มุ่งจะปฏิรูปการเมืองและปฏิรูปประเทศในด้านอื่นๆ ที่สำคัญด้วย

สาม พรรคการเมืองพรรคนี้ก้าวข้ามความขัดแย้งเรื่องเหลืองกับแดง ไม่ได้เป็นพวกเป่านกหวีด หรือ พวกต่อต้านนกหวีด เราก้าวข้ามเรื่องในอดีตแล้วครับ ใครที่ต้องการ ใครที่สนับสนุน และใครที่ทุ่มเทกับการปฏิรูป คนนั้น ย่อมเป็นพวกเรา ส่วนใครที่ไม่จริงใจกับประชาชน ไม่เอารัฐธรรมนูญ และประชาธิปไตย และไม่เอาการปฏิรูป อย่างจริงจัง นั่นย่อมไม่ใช่พวกเรา

สี่ พรรคนี้ไม่ได้เริ่มต้นว่าจะเอาใครเป็นนายก ฯ และพรรคนี้จะไม่เริ่มจากประเด็นว่า จะสนับสนุน พล อ ประยุทธ์ จันโอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง หรือไม่ ? นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นเริ่มต้นของเรา

สี่ พรรคนี้ไม่ใช่ กปปส อย่างแน่นอน ผู้ก่อตั้งพรรคมีทั้งที่เคยเป็น กปปส และที่ไม่เคยเป็น กปปส ผมเอง ไม่เคยเป็น กปปส ผู้ก่อตั้งพรรคอย่างผมมีไม่น้อย พรรคนี้ไม่ได้มุ่งดูด สส จากพรรคเก่าพรรคไหน ทั้งสิ้น และ พวกเราก็ไม่ได้เป็นปรปักษ์กับพรรคไหนทั้งสิ้น ตัวผมเองเคยเป็นประธานคณะทำงานเพื่อความปรองดองและสมานฉันท์ และเคยเป็น กรรมการในคณะเตรียมการสร้างความสมานฉันท์ของ ปยป ขอยืนยัน อย่างหนักแน่นว่าหากผมกลับเข้าไปทำงานการเมือง ก็จะทำงานเพื่อเดินไปสู่ความรู้รักสามัคคี นำสันติสุขกลับคืนมาให้บ้านเมือง ให้ความรู้รักสามัคคีเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งของการเฉลิมฉลองรัชกาลที่ 10 ของพวกเราคนไทย

ห้า หากต้องการรู้เรื่องของพรรคใหม่นี้ โปรดคอยเวลา และติดตามความคืบหน้า โปรดอย่าคิดเอาเอง และ ตื่นตระหนก หรือ ดีใจ พอใจ คล้อยตามกระแสข่าว ครับ จนถึงบัดนี้ ขอยืนยัน ยังมีแต่กลุ่มผู้ก่อตั้งพรรค และพรรคนี้ยืนยันไม่ใช่พรรคของคุณสุเทพ ไม่ใช่พรรคของ กปปส พรรคนี้จะจดแจ้งชื่อต่อ กกต ในไม่กี่วันข้างหน้า จะมีชื่อผู้ก่อตั้งจำนวนหนึ่ง และ ถ้าพรรคนี้จะมีหัวหน้าหรือมีกรรมการบริหารแล้ว จะต้องมาจากการพิจารณาและจากการเลือกตั้งของมวลสมาชิกพรรคเท่านั้น อนึ่ง ผู้ก่อตั้งพรรคคิดว่าจะต้องระดมเขิญชวนสมาชิกให้เข้ามามากพอสักระยะหนึ่งก่อน ด้วย เราจะไม่บุ่มบ่าม จะไม่สนใจแต่การเตรียมเลือกตั้ง หาโอกาสที่จะชนะ จะเข้าไปมีอำนาจ และ เราจะไม่เน้นเพียงการสร้างกระแสที่มีแต่ความวูบวาบ เป็นเพียงประกายไฟแล้วก็ดับวูบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน