เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 25 พ.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งต่อข้อความและภาพที่ระบุ “ประยุทธ์ขอประชาชนจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ขึ้นประเทศจะล้มละลาย” ในช่วงนี้ ว่า ข้อความและภาพดังกล่าวเป็นเรื่องเก่าเมื่อเดือน มี.ค. 2560 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้เป็นเจตนารมณ์ของนายกฯ แต่เป็นการตีความที่คลาดเคลื่อน พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด

ส่วนข้อกังวลที่ว่ารัฐบาลจะปรับขึ้นภาษี 9 เปอร์เซ็นต์ (รวมภาษีท้องถิ่นอีก 1 เปอร์เซ็นต์ อัตรารวมคือ 10 เปอร์เซ็นต์) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 ตามที่ได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2560 นั้น นายกฯ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย และยังคงไว้ที่อัตรา 7 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่อยากผลักภาระให้ประชาชนเดือดร้อน จึงไม่อยากให้สังคมตื่นตระหนกและหลงเชื่อ หรือนำไปวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดความสับสน ทั้งนี้ โดยหลักการแล้วรัฐบาลจะต้องขึ้นภาษีอีก 3 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประมวลรัษฎากร แต่รัฐบาลได้ออกกฎหมายลดอัตราภาษี โดยให้จัดเก็บจริงที่ 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอัตราคงที่ต่อเนื่องกันมาทุกปี

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนที่สื่อมวลชนหลายสำนักเผยแพร่ข่าว เพจเฟซบุ๊ก “ขอล้าน Like สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายก” ทำโพลสอบถามประชาชนในโอกาสครบรอบ 4 ปี ว่ายังสนับสนุนนายกรัฐมนตรีให้บริหารบ้านเมืองต่อหรือไม่ โดย 1วัน มีผู้ตอบคำถาม 500,000 คน แบ่งเป็นผู้ที่สนับสนุน 11 เปอร์เซ็นต์ และไม่สนับสนุน 89 เปอร์เซ็นต์ นายกฯรับทราบแล้ว และไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อข้อมูลดังกล่าว เพราะที่ผ่านมา มีผลโพลออกมาจากหลายสำนัก หลายประเภท ซึ่งมีทั้งที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ทุกอย่างให้ที่ดีสุด จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง จากนั้นประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง อ่านข่าว : ปชช.ครึ่งล้าน แห่ตอบโพล “เอา-ไม่เอา บิ๊กตู่อยู่ต่อ” พบเกือบ90%ไม่เอา!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน