เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเป็นประธานในการพูดคุยกับพรรคการเมืองเกี่ยวกับแนวทางปลดล็อกในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ว่า ชทพ.ยินดีเข้าร่วม เพราะขณะนี้เวลาสำหรับการปรับปรุงระบบตามกฏหมายใหม่แทบจะไม่เหลือแล้ว ตนจะรอดูการหารือ 3 ฝ่ายระหว่าง คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ในวันที่ 14 มิ.ย. ว่าจะมีประเด็นที่เป็นเดตล็อกตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ใดที่จะถูกเกาะออกให้บ้าง เพราะวันนี้แม้ว่ารัฐบาลจะปลดล็อกให้ดำเนินกิจกรรม แต่พรรคเก่ายังไม่สามารถประชุมได้ เพราะองค์ประกอบไม่ครบ เนื่องจากสาขาพรรคถูกยุบไปตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ถ้าไม่ปลดเดตล็อกนี้ พรรคเก่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นกรณีดังกล่าวเมื่อผูกด้วยมาตรา 44 ก็ต้องแก้ด้วยมาตรา 44 โดยการคลายบทบทบัญญัติคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ออก
ขณะที่การทำไพรมารี่โหวตก็เช่นเดียวกัน ถ้ารัฐบาลไม่คลายล็อกให้ พรรคก็ไม่สามารถทำได้ทันเหมือนกัน เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ประชาชนต้องมีส่วนในการส่งผู้สมัครส.ส. แต่ถ้าปลดไพรมารี่โหวตออกทั้งหมดก็จะขัดกับรัฐธรรมนูญ ตนจึงคิดว่า เป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะหาวิธีอันเป็นกึ่งกลางระหว่างไพรมารี่มาใช้สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ที่ผ่านมาตนเห็นด้วยกับหลักการดังกล่าว มิเช่นนั้น จะทำกันอยู่ไม่กี่คน แต่หลักการนี้สามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นได้ ด้วยการผ่อนคลายลง ไม่จำเป็นต้องทำไพรีมารี่โหวตเพียงอย่างเดียว โดยให้คำนึงถึงหลักการให้สมาชิกมีส่วนร่วม มีตัวอย่างในอดีต อาจจะให้สาขาพรรคเข้ามาร่วมพิจารณา หรืออาจจะนำรายชื่อผู้สมัครในจังหวัดต่างๆให้ผู้แทนจังหวัดนั้นๆ ให้ความเห็นชอบมาก็ได้ ถือว่าสมาชิกมีส่วนร่วมเช่นเดียวกัน
