“บิ๊กตู่”ลั่นไม่ต้องการรักษาอำนาจ หวังผลประโยชน์ตำแหน่งนายกฯพอเพียงแล้ว “ยัน”ลูกเมียไม่ได้ลำบาก ไม่ได้มีธุรกิจแม้แต่บาทเดียว ท้าตรวจสอบ “แขวะ”คนไกลอย่ากลัว ถ้าคิดว่าคดีไม่เป็นธรรมให้กลับมาสู้ “ชี้”วันนี้ยังไม่ตัดสินใจอยู่กับใคร มีสิทธิพูดการเมือง

– บิ๊กตู่ บ่นอ่วม-กว่า 400 คดี / เมื่อ‪เวลา 09.00 น.‬วันที่ 10 ก.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยก่อนการประชุมพล.อ.ธันวาคม ทิพยจันทร์ ประธานสมาคมพันธมิตรมวยไทยโลก นำศิลปินดารา นักร้อง และอดีตนักมวยไทย 16 คน อาทิ นายสมบัติ เมทะนี – นายรอง เค้ามูลคดี – นายกรุง ศรีวิไล – นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ – นางดวงใจ ไพจิตร – นายศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์เข้าพบนายกฯ เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานกิจกรรม CSR เพื่อสังคม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันหน้าจะเกิดอย่างไรต่อไป ตนไม่ได้ทำเพื่อวันนี้ ตนทำเพื่อวันหน้า แก้ไขปัญหาที่คนเดิมๆสร้างไว้เป็นร้อยแปดปัญหาไม่มีใครรู้หรอก แต่ตนไม่โทษใคร ตนรู้จักพี่ๆทุกคน และรู้ทุกคนทำอะไรมากก่อน รู้ทุกคนทำอะไรอยู่ แต่วันนี้โลกมันเปลี่ยนแปลงแล้ว ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง

“ไม่ใช่ผมต้องการรักษาอำนาจ ไม่ใช่ผมต้องการรักษาผลประโยชน์ ผมยืนยันด้วยผมเอง ผมไม่เคยได้ประโยชน์ จากการเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นอะไรก็ตามแม้แต่บาทเดียว ตั้งแต่ผมเข้ามา ดังนั้นเกิดอะไรขึ้นให้ไปหามา ผมจะลงโทษให้หมด เพราะนี้คือส่ิงที่ทุกคนที่เป็นรัฐบาลต้องทำแบบนี้ และผมไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการธุรกิจอะไรเลยแม้แต่สักอย่างเดียว ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องไปหาผลประโยชน์ เพราะผมพอเพียงแล้ว ลูกเมียผมไม่ได้ลำบากอะไร”

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนคาดหวังจากทุกคนคือการคิดใหม่ คือการคิดโดยคนรุ่นเรา คนรุ่นกลางๆที่จะสามารถรักษาประเทศไทยไว้ให้ได้ด้วยอัตลักษณ์ของประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสามานฉันท์ พบปะพูดคุยกันได้ตลอดเวลา กลับไปทบทวนดูว่าเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนทำให้เกิด และสาเหตุเกิดจากอะไร ความไม่เป็นธรรมหรือกฎหมายไม่ถูกต้องหรือยังไง ต้องไปคิดใคร่ครวญตรงนี้ใหม่ ตนไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก แต่อะไรก็ตามที่เป็นกระบวนการยุติธรรม ถ้าเราไม่เชื่อมั่นเชื่อถืออยู่ไม่ได้ประเทศไทย

“เพราะฉะนั้นใครก็ตาม คิดไม่เป็นธรรมกลับมาต่อสู้คดี ผมให้ต่อสู้คดีได้ทุกคน ไม่ต้องกลัว ใครรังแกไม่ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นเรื่องกฎหมาย ผมเคารพกฎหมาย ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องรับการตรวจสอบอะไร ผมโดนตรวจสอบทุกอัน โดนไป 400คดี ในฐานะหัวหน้าคสช.หัวหน้ารัฐบาล หัวหน้าโครงการ แต่ผมไม่กลัวซักคดี เพราะผมบริสุทธิ์ใจในการทำงานของผม การใช้มาตรา 44 ผมใช้เท่าที่จำเป็น คนไม่ดีต้องถูกย้ายออกไปอย่างคนทุจริต”

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนประชุมทุกวันอังคารตั้งแต่ ‪09.00 น.‬เลิก‪เวลา 15.00 น.‬ไม่มีรัฐมนตรีไหนออกนอกประชุมของตน ออกมานั่งกินกาแฟไม่ได้ แต่ก่อนไม่มีที่ไหนแบบนี้ นั้นคือข้อเท็จจริง ประโยชน์ตกที่ใครต้องไปดูข้อเท็จจริง ตนไม่ได้มีพรรคมีพวก แต่ต้องการคนทำงานที่มีประสิทธิภาพ การท่ีบอกว่าทำไมต้องเอาคนนั้น ทำไมต้องมีพี่คนนี้ ทุกคนมีพี่มีเพื่อน ถ้าพี่ดีก็ทำงานไป ถ้าพี่ไม่ดีก็ลงโทษไป ตนไม่ปกป้อง รวมถึง

“หวังว่ารัฐบาลหน้าซึ่งใครจะเป็นก็ไม่รู้ ใครจะดูดไม่ดูด ผมไม่รู้ เพราะผมยังไม่ได้ไปอยู่กับใครสักคนเลย เพราะฉะนั้นการที่ทุกคนจะพูดเรื่องการเมืองพูดได้ทุกคน แล้วมันผิดตรงไหน ในเมื่อยังไม่เกิดอะไรขึ้น มันจริงไหม แล้วผมถามสมัยก่อนใครก็แล้วแต่เป็นรัฐบาลทำแบบนี้ไหม”นายกฯกล่าว จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯได้ถามนายสมบัติว่า ทำไมพี่ “เป็นรัฐบาลออกมาพูดแบบนี้หรือไม่ ทำทุกพรรคนั้นแหละ ผมยังไม่ได้ทำด้วยตัวผมเองสักอันเลย ดังนั้นกรุณาเข้าใจตรงนี้ด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน