“บิ๊กตู่” ฝาก กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพจิตคนไทย หลังติดโซเชียลเบอร์1อาเซียน ใช้เฟซบุ๊กกว่า70ล้านไอดี ห่วง สื่อมวลชน นำเสนอข่าวทีมหมูป่า หวั่นบวกกลายเป็นลบ ขอให้มีความระมัดระวัง

– บิ๊กตู่ ห่วงสุขภาพจิต / เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวช่วงหนึ่งในปาฐกถาหัวข้อ”มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพื่อสุขภาพคนไทย” ว่า

คนไทยใช้โทรศัพท์ประมาณ 90 ล้านเครื่อง บางคนใช้ 2-3 เครื่อง และใช้ เฟสบุ๊ก กว่า70ล้านไอดี ถือมีสถิติการใช้ที่สูงที่สุดไปอาเซียน ซึ่งต้องดูว่าที่ใช้ทุกวันเกิดประโยชน์แค่ไหน ถ้าใช้แค่พูดคุยจะจ๋า คงไม่ต้องใช้มาก แต่ใช้เพื่อเกิดประโยชน์เพื่อการค้าขาย ทางออนไลน์เรื่องการศึกษารักษาพยาบาลเพื่อพัฒนาตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองตรงนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการใช้โซเชียลมีเดียมันมีทั้งบวกทั้งลบเสมอวันนี้โลกกำลังขับเคลื่อนด้วยประชาธิปไตยเป็นส่วนใหญ่และการขับเคลื่อนด้วยยุคโลกาภิวัตน์ ดังนั้นโซเชียลมีเดียมีบทบาทสูงต่อสังคมปัจจุบันและสังคมโลกซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะใช้กฎหมายไม่ได้ทั้งหมดฉันนั้นขึ้นอยู่กับจิตใจจึงขอฝากสาธารณสุขช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วยในเรื่องจิตใจคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถ้าติดตามข่าวสารในโทรทัศน์จะมีข่าวที่ทำให้เกิดความห่อเหี่ยวเยอะ และมีข่าวที่ทำให้เกิดความสับสนอลหม่านเยอะพอสมควรเพราะสิ่งนี้คือข่าวที่คนชอบเพสและติดตามแต่สิ่งเหล่านี้จะกลับมาเป็นความทุกข์ให้กับตัวเอง โดยที่เราไม่รู้ตัวและพร้อมที่จะเบี่ยงเบนประเด็นไปโดยเสมอ แม้อาจจะไม่มีเรื่องอะไร แต่ก็ทำให้สถานการณ์รู้สึกไม่สบายใจไประยะหนึ่ง

เหมือนปัญหาหวยจบไม่จบอยู่อย่างนี้ซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไรอะไรที่ควรจะจบก็ไม่จบ ซึ่งเป็นกระแสของสังคมในเวลานี้ขอฝากไว้ด้วยตนไม่ได้โทษใคร เพราะห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้าเรามีจิตใจมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศมีความสุขและเห็นว่าอะไรที่ทำให้ประเทศหรือตัวเราไม่มีความสุขตรงนั้นต้องหาให้เจอแล้วช่วยกันแก้มันก็จะจบลงได้ ไม่ใช่คิดว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นของคนโน้นมันไม่ใช่โรคทางกายที่หมอจะช่วยแก้ได้ แต่ปัญหาสังคมทุกคนต้องช่วยกันแก้เพื่อเราจะได้เป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เหมือนกับประเทศโครเอเชีย ที่มีประชากร 5ล้านคน แต่ได้เข้าชิงฟุตบอลโลก เรามีตั้ง70กว่าล้าน ได้นำพลังเหล่านี้มาขับเคลื่อนร้อยเปอร์เซ็นต์หรือยัง

“พรุ่งนี้จะเดินทางไปประเทศภูฏานสองวัน เป็นไปตามคำเชิญซึ่งช่วงนี้มีงานเยอะหลายคนช่วยเราไปหลายคนก็มาหาเราอันนั้นคือศักยภาพของประเทศไทยในทุกๆด้าน แม้กระทั่งการช่วยเหลือชีวิตทีมหมูป่าก็เป็นที่รับรู้กันทั่วโลก ขอให้ระมัดระวังการเขียนข่าวจะเขียนเสนอข่าวหรือสัมภาษณ์อะไรออกไปมันจะทำให้สิ่งที่เป็นภาพบวกอยู่ กลับมาลบอีกหรือเปล่ายังไม่รู้ ต้องคำนึงถึงตรงนี้เสมอ อะไรที่ทำดีและแก้ปัญหาได้แล้วมันก็ต้องจบกัน และต้องเป็นบทเรียนของเราในวันข้างหน้า

แม้กระทั่งเรื่องทัวร์ต่างๆรัฐบาลก็พยายามขับเคลื่อน แต่ทุกอย่างก็แก้ไขด้วยตัวคนเดียวไม่ได้จะโดยรัฐ อย่างเดียวก็ไม่ได้มันเกี่ยวข้องกับหลายส่วนฉะนั้นการทำงานทุกอย่างประกอบด้วยรัฐประชาชนเอกชนและภาคธุรกิจต่างๆรัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวก กฎหมายออกหลักเกณฑ์กติกาให้ข้าราชการปฏิบัติตามระเบียบวินัยต่อการทำงานแค่นี้จบถ้าทุกคนรู้หน้าที่ตัวเองก็จะเดินหน้า ไปสู่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน” นายกฯ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน