ปณิธาน ที่ปรึกษา ‘ประวิตร’ เผยข้อมูลจาการ์ต้าโพสต์ รับข้อมูลจากแหล่งไม่น่าเชื่อถือของไทย ด้าน ‘บิ๊กตู่’ เตรียมอวดวิสัยทัศน์ นั่งประธานอาเซียน ดันแผนปฏิบัติการ 20 ปี เดินนำหน้าเพื่อนร่วมภูมิภาค ไปพร้อมไทย

แผนปฏิบัติการ 20 ปี – วันที่ 11 ส.ค. นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์จาการ์ต้าโพสต์ วิจารณ์การดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ว่า การดำเนินงานของอาเซียนถูกออกแบบรองรับระบอบการปกครองที่แตกต่าง และมีวัฒนธรรมที่ไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน อะไรที่เขากังวลเราก็ชี้แจงไป เชื่อว่าไม่เป็นปัญหาอะไร

ส่วนผู้ที่เขียนบทความในเรื่องนี้หลายคนคุ้นเคย และทราบว่าจะเขียนในทำนองจุดประกายให้คิด เป็นนักคิดแต่ไม่ได้เป็นผู้บริหารหนังสือพิมพ์ใด และมีข้อสังเกตว่า บางรูปภาพ บางคำที่ใช้ไปสอดคล้องกับเว็บไซต์ของคนไทยบางกลุ่มที่ใช้ จึงต้องไปเทียบเคียงกัน เพราะอาจจะได้รับข้อมูลจากที่ต่างๆ แล้วนำมาเขียน แล้วเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ ซึ่งคิดว่าข้อมูลมาจากกลุ่มการเมือง จึงต้องไปพิสูจน์กัน โดยประเทศที่ให้ความสนใจการเมืองไทยก็ไม่ได้มีมาก ก็อาจทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงไปบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการคัดค้านการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนบ้างหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ก็มีบ้างในช่วงที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยจะขึ้นมาเป็นประธานอาเซียน ในบางกรณีรุนแรงกว่านี้มีการคัดค้านอย่างเป็นทางการจากกลุ่มประเทศ แต่ในครั้งนี้ถือว่าไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อนๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดา และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับประเทศไทย ซึ่งข้อสังเกตในเรื่องนี้ ฝ่ายความมั่นคงของไทยก็เข้าไปดูอยู่ และพบว่ายังปกติ หลายประเทศยังสนับสนุนไทย จึงเป็นเรื่องที่ไทยต้องผลักดันหุ้นส่วนความเป็นสมาชิกให้ใกล้ชิดมากขึ้น ต้องเชื่อมโยงกลุ่มอนุภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาให้เห็นผลจริง

โดยนายกรัฐมนตรีมีแนวคิด อยากทำแผนปฏิบัติการ 20 ปี ให้กับอาเซียน เพราะส่วนใหญ่ในอาเซียนมีนโยบาย แต่ยังไม่มีแผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเหมือนยุทธศาสตร์ชาติของไทย ไทยจะเป็นแกนกลางในการผลักดันประเด็นต่างๆ ให้มีความเป็นกลาง ทั้งนี้อาเซียนเห็นว่า นายกฯ เหมาะอยู่ในบทบาทที่สำคัญ เพราะเห็นวิสัยทัศน์การทำงาน โดยเฉพาะคำพูดว่า จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และให้ประเทศที่มีศักยภาพสูง ไปช่วยประเทศที่มีศักยภาพน้อยกว่า ทำให้หลายประเทศรู้สึกมั่นใจว่า ถ้าเป็นไปตามแนวทางนี้ จะไม่เกิดความเครียดหรือความเห็นที่แตกต่าง ถึงแม้ว่าในปี 2562 นายกรัฐมนตรีจะไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่เป็นไร เพราะยุทธศาสตร์อาเซียน ถือว่าอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลใหม่ก็ต้องเดินไปตามนี้ ทุกประเทศจึงมั่นใจว่าไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นใครก็ยังเดินหน้าตามแนวทางนี้อยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน