เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยจะยึดคาถาเป็นกลาง ไม่ถูกครอบงำว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะทั้ง 5 คนมาจากหลายส่วน และเป็นครั้งแรกที่ประธานกกต.เป็นนักการทูต ขณะที่อีก 4 คนมีทั้งจากสายศาล เป็นอดีตผู้ว่าฯ กระทรวงมหาดไทย มีประสบการณ์ด้านบริหาร จึงทำให้รู้สึกว่า เป็นที่คาดหวังได้ ขณะที่อีก 2 คนที่อยู่ระหว่างการสรรหา หวังว่าจะได้คนที่มีประสบการณ์อื่นๆเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาดไป อาทิ นักรัฐศาสตร์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบ กกต.ชุดเก่าได้เตรียมการงานสำหรับการเลือกตั้งไว้พอสมควร การรับหน้าที่ในช่วงรอยต่อคงไม่ยุ่งยากนัก แต่บทบาทของกกต.ตามกฎหมายใหม่ถือว่า เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร โครงสร้างการบริหารจัดการไปอยู่ที่สำนักงานกกต. ขณะที่นายทะเบียนพรรคการเมือง เดิมเป็นอำนาจของประธานก็มาอยู่ที่เลขาธิการกกต. จึงทำให้งานรูทีนต่างๆหายไป กกต.จะมีบทบาทเป็นบอร์ดคุมนโยบาย ทำให้มีเวลาดูแลงานเลือกตั้งได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เช่นเดียวกับกลไกผู้ตรวจการเลือกตั้งที่เป็นเรื่องใหม่ที่ถูกมีขึ้นเพื่อลบภาพกกต.จังหวัดเดิมที่ถูกครหาว่า มีความสนิทสนมหรือเข้าข้างนักการเมืองในพื้นที่ ด้วยกลไกที่ออกแบบไว้ จึงยากที่จะรู้ว่า คนที่ได้เป็นแล้วจะได้ไปอยู่ที่ใด การจะใช้เส้นสายหรือช่วยกัน จึงเป็นเรื่องยาก

“ผมคิดว่า จากนี้ไป กกต.จะต้องเผชิญสถานการณ์ทางกฎหมายที่มี 2 มิติควบคู่กัน จากกฎหมายปกติ และจากคำสั่งคสช. ซึ่งเป็นสิ่งที่ตีความตามกระบวนการปกติไม่ได้ เพราะต้องไปถามคสช. ด้วยสถานการณ์เช่นนี้จึงอยากให้กกต.เช็กเจตนารมณ์ของกฎหมายทั้ง 2 มิตินี้ให้ดี มิเช่นนั้นจะทำงานยาก ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้งก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเผชิญ เพราะกกต.จะต้องอยู่ระหว่างเขาควายแห่งความขัดแย้ง แค่รักษาตัวให้ความเป็นกลางก็ถือว่ายาก ไม่ว่าจะมีท่าทีอย่างไรก็อาจถูกมองว่า เข้าข้างฝ่ายนั้นฝ่ายนี้อยู่ตลอด จึงขอให้โชคดี การเลือกตั้งเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกคาดหวัง เพราะความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาเกิดขึ้นเพราะการไม่เชื่อในระบบการเลือกตั้ง เสียงข้างน้อยกล่าวหาเสียงข้างมากว่า ซื้อเสียง ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ และยุติธรรม ดังนั้น กกต.ใหม่ต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นสรณะที่เชื่อถือได้ การเมืองที่ร้อนก็เย็นลงไปได้”นายนิกร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน