รัฐบาลแจงให้สื่อนอกสัมภาษณ์พิเศษ ‘ทีมหมูป่า’ ไม่มีสองมาตรฐาน เชื่อสื่อไทยเข้าใจ!
รองโฆษกรัฐบาล แจงเหตุเปิดทางสื่อนอก สัมภาษณ์นักฟุตบอลทีมหมูป่าฯ ยัน ไม่มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ชี้ ทำเรื่องขออนุญาตตามหลักเกณฑ์ เผย เปิดทุกสื่อขออนุญาตผ่านคกก.สื่อสร้างสรรค์ จัดลำดับความเหมาะสม
เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงกรณีที่มีการวิจารณ์เรื่องการอนุญาตให้สื่อต่างประเทศบางสำนัก เข้าสัมภาษณ์นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่จ.เชียงราย โดย ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าเริ่มเปิดให้สื่อมวลชนยื่นขออนุญาตเพื่อขอสัมภาษณ์ได้ ว่า การที่สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ ของสหรัฐอเมริกา ได้สัมภาษณ์นั้น เป็นการขออนุญาตไปที่กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์กรณีถ้ำหลวง ที่มี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน เพื่อพิจารณากลั่นกรองหากมีการขอเข้ามาสัมภาษณ์หรือถ่ายทำภาพยนตร์และสารคดี กำหนดเงื่อนไขไว้ว่าต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเด็ก และประเทศไทย และต้องดำเนินการรอบคอบ และหากสื่อใดต้องการเข้าไปสัมภาษณ์ให้ติดต่อไปที่คณะกรรมการฯ ดังกล่าว ต้องชี้แจงรายละเอียดของคำถาม ไม่มีผลกระทบกับเด็กโดยมีนักจิตวิทยา และสหวิชาชีพมาหารือและตรวจสอบคำถามหากเข้าเงื่อนไขก็จะรับเรื่องไว้พิจารณาและประสานไปที่คณะกรรมการจังหวัดให้รับทราบ
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีเอกสารระบุว่าเชิญนักฟุตบอลมาถ่ายทำรายการเดินหน้าประเทศไทยนั้น ต้องชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของการสื่อสาร เพราะก่อนหน้านั้นตนเคยดำเนินรายการเดินหน้าประเทศไทยเกี่ยวกับถ้ำหลวง จึงอาจเข้าว่าเชิญไปออกรายการเดินหน้าประเทศ แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีวัตถุประสงค์ไปแอบอ้างตามที่มีการตีความ และคิดว่าคงไม่มีใครไปแอบอ้างเพราะท้ายที่สุดก็ไม่มีการสัมภาษณ์มาออกรายการจริง แต่ยอมรับว่ามีการหารือว่าในอนาคตอาจจะมีการสื่อสารระหว่างเด็กกับคนไทยในรายการเดินหน้าประเทศไทย
“ที่เลือกเอบีซีนิวส์ เพราะทำเรื่องของมาก่อน มีผู้ชมมาก และใจความสำคัญคือฟุตบอลและโค้ชที่หมูป่าต้องการขอบคุณต่อคนทั่วโลกที่ให้ความเมตตา จึงพิจารณาว่าช่องทางหรือมีประสิทธิภาพในการสื่อสารและในอนาคตก็มีทั้งญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย โดยสารที่สื่อต่างประเทศเพราะต้องการให้สื่อสารไปถึงโลก แต่สื่อไทยต้องการสื่อสารให้คนในประเทศซึ่งถือว่ามีความสำคัญทั้งสองกลุ่ม และมั่นใจว่าสื่อไทยเข้าใจจุดประสงค์ที่รัฐบาลต้องการสื่อสารคือเพื่อให้เกิดผลดีไม่กระทบกับเด็ก และการขออนุญาต ต้องเข้าเงื่อนไขและมาพิจารณาว่าใครขอเข้ามาก่อนและหลังและต่อไปคณะกรรมการฯจะจัดลำดับให้เหมาะสม เนื่องจากมีสื่อจำนวนมาก จึงต้องดูไม่ให้กระทบการเรียนกับเด็กและความสะดวกของผู้ปกครอง รวมทั้งดูแลคุ้มครองสิทธิของเด็กและการสัมภาษณ์เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ยืนยันว่าการอนุญาตสื่อไทยกับสื่อต่างประเทศมีมาตรฐานเดียวกัน และชี้แจงการอนุญาตสื่อเอบีซีนิวส์ ไม่มีเรื่องของผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องแน่นอน และเชื่อว่าสื่อก็มีจรรยาบรรณ และไม่ใครทำที่ไปทำข่าวจะต้องจ่ายเงินให้แหล่งข่าว ซึ่งต่างจากการทำหนังหรือสารคดีที่จะมีสิทธิประโยชน์ จึงต้องมีคณะกรรมการฯ เข้ามาช่วยดูแลไม่ให้ถูกเอาเปรียบ” พล.ท.วีรชน กล่าว และว่า ขณะนี้มีสำนักนักข่าวเอ็นบีซี, เอบีซี ออสเตรเลีย, ซีเอ็นเอ็น, นิปปอน ที่ทำเรื่องเพื่อขอสัมภาษณ์ โดยทุกสำนักจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ ตามขั้นตอนพิจารณาเห็นว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมของการที่จะเข้าไปสัมภาษณ์ได้แล้ว และมีบริษัทภาพยนต์จากต่างประเทศติดต่อเข้ามาเพื่อขออนุญาต โดยมีคณะอนุกรรมการที่เข้ามาช่วยดูแลเรื่องสิทธิที่เด็กจะได้รับ
